Comparing 7 Key Financial Ratios with AI
อัตราส่วนทางการเงิน ทั้ง 7 ตัวนี้มีความแตกต่างกันยังไง อธิบายความแตกต่างพร้อมกับแสดงวิธีคิดด้วย
1.Operating Margin
2.อัตรากำไรขั้นต้น(มีค่าเสื่อมฯ)
3.อัตรากำไรขั้นต้น(ไม่มีค่าเสื่อมฯ)
4.อัตรากำไรจากการดำเนินงาน(มีค่าเสื่อมฯ)
5.อัตรากำไรจากการดำเนินงาน(ไม่มีค่าเสื่อมฯ)
6.อัตรากำไรสุทธิ(มีค่าเสื่อมฯ)
7.อัตรากำไรสุทธิ(ไม่มีค่าเสื่อมฯ)
เมื่อถาม AI สามตัว ได้แก่ ChatGPT ,Claude และ Deepseek ตามคำถามข้างต้น AI แต่ละค่ายให้คำตอบและอธิบายถึงอัตรากำไรแต่ละประเภท ดังนี้
คำตอบจาก ChatGPT
1. Operating Margin ความหมาย : แสดงความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานขององค์กร โดยพิจารณารายได้จากการดำเนินงานหลักลบต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

2. อัตรากำไรขั้นต้น (มีค่าเสื่อมฯ) ความหมาย : วัดกำไรที่ได้จากการขายสินค้า/บริการ หลังจากหักต้นทุนขาย (รวมค่าเสื่อมราคา)

3. อัตรากำไรขั้นต้น (ไม่มีค่าเสื่อมฯ) ความหมาย : วัดกำไรที่ได้จากการขายสินค้า/บริการ หลังจากหักต้นทุนขาย (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา)

4. อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (มีค่าเสื่อมฯ) ความหมาย : วัดความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานหลัก โดยรวมค่าเสื่อมราคาในค่าใช้จ่าย

5. อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ไม่มีค่าเสื่อมฯ) ความหมาย : วัดความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานหลัก โดยไม่รวมค่าเสื่อมราคาในค่าใช้จ่าย

6. อัตรากำไรสุทธิ (มีค่าเสื่อมฯ) ความหมาย : วัดกำไรสุทธิที่องค์กรทำได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมค่าเสื่อมราคา) และภาษี

7. อัตรากำไรสุทธิ (ไม่มีค่าเสื่อมฯ) ความหมาย : วัดกำไรสุทธิที่องค์กรทำได้ โดยไม่นับค่าเสื่อมราคาเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่าย

ข้อสรุปความแตกต่าง:
- การวัดกำไรขั้นต้น (Gross Margin) เน้นที่ต้นทุนขาย (Cost of Goods Sold)
- การวัดกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Margin) เน้นต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
- การวัดกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงภาษีและรายได้อื่น
- การมีหรือไม่มีค่าเสื่อมราคาในสูตรจะส่งผลต่อระดับกำไร เนื่องจากค่าเสื่อมราคาเป็นต้นทุนที่ไม่กระทบเงินสด (Non-Cash Expense)
คำตอบจาก claude ai
- Operating Margin หรืออัตรากำไรจากการดำเนินงาน
- สูตร = กำไรจากการดำเนินงาน / รายได้รวม × 100
- แสดงประสิทธิภาพในการดำเนินงานหลักของบริษัท
- รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมด แต่ไม่รวมดอกเบี้ยและภาษี
- อัตรากำไรขั้นต้น (มีค่าเสื่อมฯ)
- สูตร = (รายได้ – ต้นทุนขาย(รวมค่าเสื่อมราคา)) / รายได้ × 100
- สะท้อนความสามารถในการทำกำไรเบื้องต้น
- รวมค่าเสื่อมราคาในการคำนวณ ทำให้เห็นต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น
- อัตรากำไรขั้นต้น (ไม่มีค่าเสื่อมฯ)
- สูตร = (รายได้ – ต้นทุนขาย(ไม่รวมค่าเสื่อมราคา)) / รายได้ × 100
- แสดงกำไรขั้นต้นที่ไม่รวมค่าเสื่อมราคา
- เหมาะสำหรับการเปรียบเทียบธุรกิจที่มีสินทรัพย์ถาวรต่างกัน
- อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (มีค่าเสื่อมฯ)
- สูตร = (กำไรจากการดำเนินงาน(รวมค่าเสื่อมราคา)) / รายได้ × 100
- รวมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
- สะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวมรวมค่าเสื่อมราคา
- อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ไม่มีค่าเสื่อมฯ)
- สูตร = (กำไรจากการดำเนินงาน(ไม่รวมค่าเสื่อมราคา)) / รายได้ × 100
- คล้ายข้อ 4 แต่ไม่รวมค่าเสื่อมราคา
- เหมาะสำหรับวิเคราะห์กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
- อัตรากำไรสุทธิ (มีค่าเสื่อมฯ)
- สูตร = กำไรสุทธิ(รวมค่าเสื่อมราคา) / รายได้รวม × 100
- รวมทุกรายการ ทั้งดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา
- แสดงความสามารถในการทำกำไรสุทธิที่แท้จริง
- อัตรากำไรสุทธิ (ไม่มีค่าเสื่อมฯ)
- สูตร = กำไรสุทธิ(ไม่รวมค่าเสื่อมราคา) / รายได้รวม × 100
- คล้ายข้อ 6 แต่ไม่รวมค่าเสื่อมราคา
- เหมาะสำหรับเปรียบเทียบบริษัทที่มีนโยบายค่าเสื่อมราคาต่างกัน
ความแตกต่างหลักๆ:
- ระดับของกำไร: ขั้นต้น -> ดำเนินงาน -> สุทธิ
- การรวม/ไม่รวมค่าเสื่อมราคา: ส่งผลต่อมุมมองในการวิเคราะห์ที่ต่างกัน
- การรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ: แต่ละอัตราส่วนรวมค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน ทำให้เห็นประสิทธิภาพในแต่ละระดับ
คำตอบจาก DeepSeek
อัตราส่วนทางการเงินทั้ง 7 ตัวนี้มีความแตกต่างกันตาม ระดับกำไร (Gross, Operating, Net) และ การรวมหรือไม่รวมค่าเสื่อมราคา โดยมีรายละเอียดดังนี้:





สรุปความแตกต่าง
อัตราส่วน | ระดับกำไร | รวม/ไม่รวมค่าเสื่อมฯ | สูตรหลัก |
---|---|---|---|
1.Operating Margin | Operating | รวม | EBIT / Revenue |
2.อัตรากำไรขั้นต้น(มีค่าเสื่อมฯ) | Gross | รวมใน COGS | (Revenue – COGS) / Revenue |
3.อัตรากำไรขั้นต้น(ไม่มีค่าเสื่อมฯ) | Gross | ไม่รวมใน COGS | (Revenue – (COGS – Depr)) / Revenue |
4.อัตรากำไรจากการดำเนินงาน(มีค่าเสื่อมฯ) | Operating | รวม | EBIT / Revenue |
5.อัตรากำไรจากการดำเนินงาน(ไม่มีค่าเสื่อมฯ) | Operating | ไม่รวมทั้งหมด | EBITDA / Revenue |
6.อัตรากำไรสุทธิ(มีค่าเสื่อมฯ) | Net | รวม | Net Income / Revenue |
7.อัตรากำไรสุทธิ(ไม่มีค่าเสื่อมฯ) | Net | ไม่รวมทั้งหมด | (Net Income + Depr) / Revenue |
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติข้อมูลบริษัท:
- Revenue: 1,000,000 บาท
- COGS: 400,000 บาท (รวมค่าเสื่อมฯ 50,000)
- Operating Expenses: 200,000 บาท (รวมค่าเสื่อมฯ 30,000)
- Interest: 50,000 บาท
- Tax Rate: 30%
- Operating Margin = (600,000 – 200,000) / 1,000,000 = 40%
- Gross Margin (มี) = (1,000,000 – 400,000) / 1,000,000 = 60%
- Gross Margin (ไม่มี) = (1,000,000 – 350,000) / 1,000,000 = 65%
- Operating Profit Margin (มี) = 40%
- Operating Profit Margin (ไม่มี) = (400,000 + 80,000) / 1,000,000 = 48%
- Net Margin (มี) = 245,000 / 1,000,000 = 24.5%
- Net Margin (ไม่มี) = (245,000 + 80,000) / 1,000,000 = 32.5%
Key Takeaway
- ค่าเสื่อมราคา ส่งผลลดกำไรในแต่ละระดับ (Gross, Operating, Net)
- การ “ไม่รวมค่าเสื่อมฯ” ทำให้อัตรากำไรสูงขึ้น เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช้เงินสด
- อัตราส่วนที่มี/ไม่มีค่าเสื่อมฯ ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการจัดการต้นทุนและสภาพคล่อง