แนวทางเคลม HI CI วันที่7ม.ค.65

0 0
Read Time:1 Minute, 27 Second

การชี้แจงหลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยค่าบริการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด และการดูแลแบบ Home – Community Isolation ที่มีการเปลี่ยนแปลง ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand วันศุกร์ที่ 7มกราคม 2565 เวลา 13:00-16:00 น. วาระประกอบไปด้วย

  • กล่าวเปิดการประชุม โดย นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.
  • Update สถานการณ์การตรวจคัดกรองและการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 โดย ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข
  • หลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยค่าบริการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 และการดูแลแบบ Home – Community Isolation ที่มีการเปลี่ยนแปลง โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • แนวทางการจัดทำข้อมูลการเบิกจ่ายให้บริการ Home – Community Isolation เพื่อให้ได้รับการโอนเงินรวดเร็ว โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • ส่งเบิกข้อมูลการบริการโควิดอย่างไรไม่ให้ข้อมูลติด C และแนวทางการแก้ไข โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • การบันทึกบัญชีกรณีรับเงินค่าบริการสาธารณสุขสำหรับโรคโควิด 19 กรณี Home – Community Isolation และระบบรายงานการโอนเงินผ่าน HNSO Budget โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • อภิปราย ซักถาม ปิดการประชุม
Happy
7 78 %
Sad
1 11 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
1 11 %

บัตรทองไปที่ไหนก็ได้ ปี2565

0 0
Read Time:4 Minute, 58 Second

หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขกรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นกรณีที่มีเหตุสมควรฯ

ตามหนังสือที่ สปสช. ๖.๗๐ / ว.๘๓๘๓ ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ (ไฟล์ด้านล่าง)

แนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข
กรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นกรณีที่มีเหตุสมควร พ.ศ. ๒๕๖๔

เพื่อให้การจ่ายค่าใช้จ่ายในการให้บริการสาธารณสุข กรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นกรณีที่มีเหตุสมควร ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขอแจ้งแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายในกรณีดังกล่าว ดังต่อไปนี้

นิยาม

  • “หน่วยบริการ” หมายความว่า สถานบริการที่ขึ้นทะเบียนไว้ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • “ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นกรณีที่มีเหตุสมควร ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • “ผู้มีสิทธิ” หมายความว่า ผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • “การรับบริการกรณีที่มีเหตุสมควร” หมายความว่า การเข้ารับบริการที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่นนอกจากหน่วยบริการประจำของตน หรือหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายหน่วยบริการที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ รวมถึงการใช้สิทธิของบุคคลซึ่งลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำนอกเขตพื้นที่ซึ่งมีรอยต่อกับเขตพื้นที่ดังกล่าว

หลักเกณฑ์การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข

การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข กรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นกรณี ที่มีเหตุสมควร ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  • (๑) เป็นการให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • (๒) เป็นการเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก โดยไม่มีหนังสือส่งตัว ไม่ใช่กรณีนัดหมายและไม่ใช่กรณีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน ในกรณีดังต่อไปนี้
    • (๒.๑) การเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก ภายในจังหวัด เป็นการเข้ารับบริการของผู้มีสิทธิ ที่มีหน่วยบริการประจำในจังหวัด โดยเข้ารับบริการในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลที่มีศักยภาพเทียบเท่า ตามรายชื่อที่กำหนด ที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดเดียวกับหน่วยบริการประจำของผู้มีสิทธิ
    • (๒.๒) การเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก ข้ามจังหวัด ภายในเขต เป็นการเข้ารับบริการของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการทุกระดับที่ตั้งอยู่ต่างจังหวัดกับหน่วยบริการประจำของผู้มีสิทธิ แต่อยู่ภายในเขตเดียวกัน
    • (๒.๓) การเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก ข้ามเขตกรณีเขตพื้นที่รอยต่อ เป็นการเข้ารับบริการของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการทุกระดับ
  • (๓) สำหรับการรับบริการตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป

อัตราการจ่าย

สปสช.จ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดบริการสาธารณสุข ตามรายการ และอัตรา ดังนี้

  • (๑) การเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก ภายในจังหวัด
    • การเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่เป็นโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาล ที่มีศักยภาพเทียบเท่า ตามรายชื่อที่กำหนด ที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดเดียวกับหน่วยบริการประจำของผู้มีสิทธิ สปสช.จะจ่ายค่าใช้จ่ายตามรายการและอัตราที่กำหนด ตามเอกสารแนบท้าย กรณีที่ยังไม่ได้กำหนดรายการ และอัตราจะจ่ายตามราคาเรียกเก็บ ด้วยระบบ Point system with Global budget
    • เว้นแต่ การเข้ารับบริการในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิอื่นนอกเครือข่าย และการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลชุมชนที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดเดียวกับหน่วยบริการประจำของผู้มีสิทธิ การรับค่าใช้จ่ายและอัตราการจ่ายเป็นไปตามข้อตกลงในจังหวัด
  • (๒) การเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก ข้ามจังหวัด ภายในเขต สปสช.จะจ่ายค่าใช้จ่าย ดังนี้
    • ก. การรับบริการในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิอื่นนอกเครือข่าย กรณีหน่วยบริการที่ไม่มีแพทย์ปฏิบัติงานประจำ หรือมีแพทย์ปฏิบัติงานประจำไม่ครบจำนวน ๕ วันต่อสัปดาห์ จ่ายตามจริงไม่เกิน ๗๐ บาทต่อครั้ง สำหรับบริการทันตกรรม จ่ายตามรายการและอัตราที่กำหนด
    • ข. การรับบริการในหน่วยบริการอื่นนอกเครือข่าย กรณีหน่วยบริการที่มีแพทย์ปฏิบัติงานประจำ ๕ วันต่อสัปดาห์ จ่ายตามรายการและอัตราที่กำหนด ตามเอกสารแนบท้าย กรณีที่ยังไม่ได้กำหนดรายการและอัตรา จะจ่ายตามราคาเรียกเก็บ ด้วยระบบ Point system with Global budget
  • (๓) การเข้ารับบริการประเภทผู้ป่วยนอก ข้ามเขตกรณีเขตพื้นที่รอยต่อ สปสช.จะจ่ายค่าใช้จ่าย ดังนี้
    • ก. การรับบริการในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิอื่นนอกเครือข่าย กรณีหน่วยบริการที่ไม่มีแพทย์ปฏิบัติงานประจำ หรือมีแพทย์ปฏิบัติงานประจำไม่ครบจำนวน ๕ วันต่อสัปดาห์ จ่ายตามจริงไม่เกิน ๗๐ บาทต่อครั้ง สำหรับบริการทันตกรรม จ่ายตามรายการและอัตราที่กำหนด
    • ข. การรับบริการในหน่วยบริการอื่นนอกเครือข่าย กรณีหน่วยบริการที่มีแพทย์ปฏิบัติงานประจำ ๕ วันต่อสัปดาห์ จ่ายตามรายการและอัตราที่กำหนด ตามเอกสารแนบท้าย กรณีที่ยังไม่ได้กำหนดรายการและอัตรา จะจ่ายตามราคาเรียกเก็บ ด้วยระบบ Point system with Global budget

วิธีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข

บันทึกและส่งข้อมูลเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ผ่านระบบโปรแกรม e-Claim

เงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข

  • (๑) มีการพิสูจน์ตัวตนเพื่อยืนยันการใช้สิทธิในการเข้ารับบริการ หรือตามที่ สปสช.กำหนด
  • (๒) สปสช.จะมีการตรวจสอบก่อนการจ่ายค่าใช้จ่าย (Pre-audit) ข้อมูลที่ไม่ผ่านจากตรวจสอบ ข้อมูลรายการนั้นจะชะลอการจ่ายค่าใช้จ่าย เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานการให้บริการจากหน่วยบริการต่อไป

การติดต่อประสานงาน

กรณีพบปัญหาข้อสงสัย หน่วยบริการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๕๕๔-๐๕๐๕ ในวันและเวลาราชการ หรือ e-mail : providercenter@nhso.go.th

Happy
1 100 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

การเปลี่ยนสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม

0 0
Read Time:2 Minute, 9 Second

สำนักงานประกันสังคมได้มีการปรับปรุงการกำหนดสิทธิการรักษาพยาบาล เพื่อความสะดวกรวดเร็ว สามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น จึงขอเรียนชี้แจงให้ผู้ประกันตนทราบ ดังนี้

  1. เมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาล ผู้ประกันตนคนไทยต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ ผู้ประกันตนที่เป็นคนต่างด้าวต้องแสดงบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะท างทะเบียนที่ออกโดยส่วนราชการ หรือแสดงบัตรประกันสังคมและหนังสือเดินทาง (Passport)
  2. สิทธิในการรับบริการทางการแพทย์เกิดขึ้นต่อเมื่อภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ ได้จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนและผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิได้ตลอดอายุความเป็นผู้ประกันตน
  3. การเปลี่ยนสถานพยาบาล
    • เปลี่ยนประจำปี ให้ดำเนินการได้ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม จนถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป
    • เปลี่ยนระหว่างปี กรณีมีเหตุจำเป็น เช่น ย้ายที่พักอาศัย ย้ายสถานที่ประจำทำงาน หรือพิสูจน์ทราบว่าผู้ประกันตนมิได้มีการเลือกสถานพยาบาลด้วยตนเอง ให้ยื่นเปลี่ยนสถานพยาบาลภายในระยะเวลาสามสิบวัน
    • ผู้ประกันตนสามารถทำการเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
      • 1) ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ (สปส. 9-02) ได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ
      • 2) ทำรายการผ่าน www.sso.go.th
      • 3) ทำรายการผ่าน Applications SSO Connect
  4. การตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม ให้สอบถามจากนายจ้าง /เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือ สายด่วน 1506 โดยสถานพยาบาลที่ท่านขอเปลี่ยนจะต้องเป็นสถานพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดที่ท่านประจำทำงานหรือพักอาศัยในปัจจุบัน หรือจังหวัดรอยต่อของจังหวัดดังกล่าวและมีจำนวนผู้ประกันตนไม่เกินตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
  5. การตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล ตรวจสอบได้ที่ www.sso.go.th /Application SSO Connect โทรสายด่วน 1506 / สำนักงานประกันสังคม / สถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม ทุกแห่งทั่วประเทศ เครื่อง Smart Kiosk ของกระทรวงมหาดไทย และ Add เพื่อน line @ssothai
  6. สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาล สามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลตามสิทธิเดิมได้จนสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน กรณีสิ้นสภาพจากความเป็นผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิต่อไปได้อีก 6 เดือนนับแต่วันที่สิ้นสภาพ

ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสถานพยาบาล ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งทำงานกับนายจ้าง สำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลฯ การเลือกสถานพยาบาลผ่านนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 39 จะแจ้งเป็นหนังสือ หรือ SMS

หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัย โปรดติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1506 หรือสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ / สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สาขาทุกแห่ง ตามวันเวลาราชการ

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

พิจารณาวงเงิน Fixed cost สสอ.

0 0
Read Time:1 Minute, 3 Second

สรุปมติการประชุมคณะทำงานพิจารณาวงเงิน Fixed cost ให้แก่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเพิ่มเติม จากเงินบำรุงของโรงพยาบาล
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 เวลา 13:30 – 16:30น. ณ ห้องประชุมก่องข้าว ชั้น3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น โดยกลุ่มงานประกันสุขภาพ จัดการประชุมคณะทำงานพัฒนาระบบการเงินการคลัง (Chief Financial Officer : CFO) หน่วยบริการสุขภาพ จังหวัดขอนแก่น เพื่อหารือแนวทางบริหารจัดการงบประมาณที่โรงพยาบาล (CUP) ต้องสนับสนุนงบค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ เพื่อใช้ในการดำเนินงานกำกับติดตามประเมินผล และขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการบริการสาธารณสุข ตลอดจนดำเนินการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ ตามนโยบายและตัวชี้วัดที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 14 ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา 13.3๐-๑6.๓๐ น. ณ ห้องประชุมก่องข้าว (ห้องประชุม VDO Conference ตึกใหม่ ชั้น 3) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
1 100 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

ค่าบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID19

0 0
Read Time:36 Second

แจ้งแนวทางการจัดสรรเงินค่าบริการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปีงบประมาณ 2565 จังหวัดขอนแก่น

  • ๑. ค่าบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังหักต้นทุนในการดำเนินการร้อยละ 40 ส่วนที่เหลือจัดสรรให้โรงพยาบาล และเครือข่ายหน่วยบริการในอัตรา 50 : 50
  • ๒. ค่าบริการเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 ให้บริหารจัดการโดย CUP เนื่องจากแต่ละ CUP มีการบริหารจัดการแตกต่างกัน โดยขอให้ส่งแนวทางและผลการจัดสรรให้จังหวัดทราบด้วย
  • ๓. ค่ากระจายชุดตรวจ ATK Home Use อัตรา 10 บาพ/ชุด จัดสรรให้โรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ดำเนินการกระจายชุดตรวจให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยตรง
Happy
1 50 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
1 50 %

รายงานควบคุมกำกับการลงทะเบียนสิทธิ

0 0
Read Time:2 Minute, 23 Second

รายละเอียดวิธีการออกรายงานควบคุมกำกับการลงทะเบียน

กำหนดรอบการออกรายงาน

รอบที่ข้อมูลลงทะเบียนสามารถดาวน์โหลดข้อมูล
1ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 15 ของเดือนนี้วันที่ 16 ของเดือนนี้
2ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ถึงสิ้นเดือน ของเดือนนี้วันที่ 1 ของเดือนถัดไป

เงื่อนไขในการออกรายงาน

สรุปข้อมูลการลงทะเบียน ที่มีทะเบียนบ้านเลขที่เดียวกันเกิน 15 คน เงื่อนไขการออกรายงานมีรายละเอียดรายงาน ดังนี้

  1. ลงทะเบียนผ่านระบบ ERM-ONLINE ,E-FORM
  2. มีบ้านเลขที่เดียวกันเกิน 15 คน ภายใน 15 วัน
  3. มีหน่วยบริการประจำที่เดียวกัน
  4. หน่วยบริการประจำ ไม่ใช่สังกัดสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ,ไม่ใช่สังกัดกระทรวงยุติธรรม และไม่ใช่สังกัดกระทรวงกลาโหม
  5. หน่วยบริการประจำเดิมกับหน่วยบริการประจำปัจจุบัน ไม่ใช่หน่วยบริการเดียวกัน
  6. ไม่ใช่รายที่ลงทะเบียนเลือกสิทธิย่อยทหารเกณฑ์ ,ผู้ต้องขัง ,สถานพินิจ ,อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และนักเรียนทหาร

สรุปข้อมูลการลงทะเบียนรายหน่วยบริการประจำที่มียอดผิดปกติ เงื่อนไขการออกรายงานมีรายละเอียดรายงาน ดังนี้

  1. ลงทะเบียนผ่านระบบ ERM-ONLINE ,E-FORM
  2. มีหน่วยบริการประจำที่เดียวกัน
  3. หน่วยบริการประจำ ไม่ใช่สังกัดสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ,ไม่ใช่สังกัดกระทรวงยุติธรรม และไม่ใช่สังกัดกระทรวงกลาโหม
  4. มียอดการลงทะเบียนของหน่วยบริการประจำ ดังนี้
    4.1 ศักยภาพเป็นโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป จำนวนมากกว่า 500 คนต่อวัน
    4.2 ศักยภาพเป็นโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลยุพราช จำนวนมากกว่า 300 คนต่อวัน
    4.3 ศักยภาพเป็นโรงพยาบาล(เอกชน) ,คลินิก(เอกชน) และศูนย์บริการสาธารณสุขสังกัด(สป.สธ.,สสช.,อปท.,กรุงเทพมหานคร) จำนวนมากกว่า 100 คนต่อวัน
    4.4 ศักยภาพเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอื่นฯ จำนวนมากกว่า 50 คนต่อวัน
  5. หน่วยบริการประจำเดิมกับหน่วยบริการประจำปัจจุบัน ไม่ใช่หน่วยบริการเดียวกัน
  6. ไม่ใช่รายที่ลงทะเบียนเลือกสิทธิย่อยทหารเกณฑ์ ,ผู้ต้องขัง ,สถานพินิจ ,อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และนักเรียนทหาร
  7. ไม่ใช่รายที่ยอมรับการลงทะเบียนตามมติบอร์ด

สรุปข้อมูลการลงทะเบียนแทนกรณี รับมอบอำนาจมากกว่า 7 คน เงื่อนไขการออกรายงานมีรายละเอียดรายงาน ดังนี้

  1. ลงทะเบียนผ่านระบบ ERM-ONLINE ,E-FORM
  2. ผู้รับมอบอำนาจเป็นคนเดียวกัน
  3. ผู้มีสิทธิได้มอบอำนาจ ให้ผู้รับมอบอำนาจไปดำเนินการลงทะเบียนแทนมากกว่า 7 คนต่อวัน
  4. หน่วยบริการประจำเดิมกับหน่วยบริการประจำปัจจุบัน ไม่ใช่หน่วยบริการเดียวกัน

การลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการจากสังกัดรัฐไปยังสังกัดเอกชน เงื่อนไขการออกรายงานมีรายละเอียดรายงาน ดังนี้

  1. ลงทะเบียนผ่านระบบ ERM-ONLINE ,E-FORM
  2. มีการลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ จากสังกัดรัฐไปยังสังกัดเอกชน จำนวนมากกว่า 100 คนต่อวัน

การลงทะเบียนในช่วงเวลาที่ผิดปกติ เงื่อนไขการออกรายงานมีรายละเอียดรายงาน ดังนี้

  1. ลงทะเบียนผ่านระบบ ERM-ONLINE ,E-FORM
  2. คลินิก(เอกชน) มีการลงทะเบียนในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 – 6.00 น
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

CPG COVID-19 อัพเดต2พ.ย.64

0 0
Read Time:1 Minute, 17 Second

แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 19 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564

โดยความร่วมมือของคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ และผู้แทนทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้างานในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด ได้ทบทวนและปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย ตามข้อมูลวิชาการในประเทศ และต่างประเทศ
การปรับแนวทางเวชปฏิบัติฯ ฉบับนี้ มีประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

  1. เพิ่มรายละเอียดคำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยด้วย antigen test kit (ATK)
  2. ตัด lopinavir/ritonavir ออกจากรายการยาที่แนะนำให้ใช้
  3. ปรับข้อบ่งชี้การใช้ remdesivir ให้ใกล้เคียงกับคำแนะนำของ the United States National Institute of Health (NIH) และ Infectious Disease Society of America (IDSA)
  4. เพิ่มรายละเอียดคำแนะนำการใช้ยาต้านไวรัสในหญิงตั้งครรภ์
  5. เพิ่มการให้ IVIG ในผู้ป่วย กรณี MIS-C
  6. ลดระยะเวลาการกักตัว (isolation) ลงจาก 14 วัน และ 21 วัน สำหรับผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ลงเหลือ 10 วัน และ 20 วันตามลำดับ รวมทั้งน้นเรื่องการไม่ตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการใด ๆ ซ้ำอีกในระยะเวลาสามเดือนหลังจากได้รับการวินิจฉัย
  7. แนะนำให้ทำการวิจัยโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยที่ได้มาตรฐาน สำหรับยาที่ยังไม่มีผลการวิจัยสนับสนุนว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโควิด-19
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

ประชุมstateless 20ธค.64

0 0
Read Time:2 Minute, 2 Second

ประชุมชี้แจงแนวทางการรับส่งข้อมูลเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ วันที่ 20 ธันวาคม 2564

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ รับผิดชอบบริหารจัดการกองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ์ มีภารกิจเกี่ยวกับการบริหาร จัดการงบประมาณ และตรวจสอบการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้กับหน่วยบริการที่ได้ให้บริการ ด้านสาธารณสุขแก่ผู้มีสิทธิทั้งภายในและภายนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และได้หารือร่วมกับสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เกี่ยวกับแนวทางการตรวจสอบข้อมูลเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ stateless โดยให้หน่วยบริการที่ให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ผู้มีสิทธิส่งข้อมูลผ่าน ทางโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตามรายการสิทธิประโยชน์ ของกองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ์ นั้น
ในการนี้ เพื่อให้หน่วยบริการสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข จึงได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการส่งข้อมูลเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขอเรียนเชิญผู้ที่รับผิดชอบส่งข้อมูล เพื่อขอเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม รับฟังการชี้แจงแนวทางการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ์ ในวันจันทร์ ที ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. โดยขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเข้าร่วมประชุม ดังกล่าว ด้วยระบบวีดีทัศน์ทางไกล VDO Conference ผ่านโปรแกรม Zoom Meeting สามารถเข้าร่วมประชุม ทาง Facebook Live ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

วาระในการประชุมประกอบไปด้วย

  • นโยบายด้านการบริหารจัดการการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ โดย ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ
  • บทบาทของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่าย โดย พญ.กฤติกา ศรีประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สปสช.
  • เงื่อนไข สิทธิประโยชน์การเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ โดย กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ
  • การรับส่งข้อมูลในระบบโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

โปรแกรม e-Claim ปีงบประมาณ 2565

0 0
Read Time:47 Second

การประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข การขอรับค่าใช้จ่ายฯ กรณีผู้ป่วยนอกและกรณีส่งเสริมสุขภาพและห้องกันโรค ผ่านโปรแกรม e-Claim ปีงบประมาณ 2565 วันที่ 13 ธันวาคม 2564 13.00 – 16.30 น. วาระประกอบไปด้วย

  • หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอรับค่าใช้จ่ายกรณีบริการผู้ป่วยนอก
  • หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอรับค่าใช้จ่ายกรณีบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
  • แนวทางการตรวจสอบการจ่ายชดเชยและคุณภาพบริการ
  • ระบบตรวจสอบและยืนยันการเข้ารับบริการ (Authen code)
  • วิธีการรับ-ส่งข้อมูลโปรแกรม e-Claim
  • โปรแกรมบริหารจัดการรหัสยามาตรฐาน (Drug Catalogue)

ลิงค์เฟซบุ๊ก https://fb.watch/9SBEZeKCOx/

Happy
11 61 %
Sad
3 17 %
Excited
2 11 %
Sleepy
0 0 %
Angry
2 11 %
Surprise
0 0 %

รวมแนวทางการเบิกจ่ายCovid อัพเดต

0 0
Read Time:7 Minute, 7 Second

แนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข สำหรับกรณีโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 ปีงบประมาณ 2565 อัพเดตวันที่ 1 เมษายน 2565

ลำดับเลขที่หนังสือเรื่อง
1สปสช.2.57/ว.2014
23 มีนาคม 2564
แนวทางขอรับค่าใช้จ่าย เพื่อบริการสาธารณสุข สำหรับกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม)
2 สปสช.2.57/ว.2583
23 เมษายน 2654
ขอความร่วมมือในการบริการผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19
1) การขยายอายุของหนังสือส่งต่อผู้มีสิทธิทั้งกรณีผู้ป่วย และผู้ป่วยใน
2) พิจารณาการจัดบริการด้านยา และเวชภัณฑ์ โดยจัดส่งยา และเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์
3สปสช.2.57/ว.2679
3 พฤษภาคม 2564
แนวทางปฏิบัติการขอรับค่าใช้จ่าย(เพิ่มเติม) สำหรับการกักกันโรคกรณีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ตามที่หน่วยบริการจัดให้ ซักซ้อมความเข้าใจแนวทางปฏิบัติการขอรับค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขฯ กรณีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกระบวนการ หรืออุปกรณ์อื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในบริการผู้ป่วยใน
4สปสช.2.57/ว.2760
6 พฤษภาคม 2564
การปรับอัตราการจ่ายค่าตรวจเชื้อไวรัส Antigen
1) การตรวจเชิงรุกนอกสถานบริการ หรือนอกสถานที่ของหน่วยบริการภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานบริการอื่น
2) การตรวจในหน่วยบริการภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานบริการอื่น
5สปสช.2.57/ว.2841
13 พฤษภาคม 2564
ซักซ้อมความเข้าใจการบันทึกข้อมูลการขอรับค่าใช้จ่าย กรณีการตรวจคัดกรอง COVID-19 สำหรับสถานบริการเอกชน
6สปสช.2.57/ว.3004
21 พฤษภาคม 2564
ซักซ้อมความเข้าใจกรณีรับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้ในโรงพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม/Hospitel จากการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active Case finding) สำหรับผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
7สปสช.2.57/ว.3876
28 มิถุนายน 2564
แนวทางปฏิบัติการขอรับค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2564 (เพิ่มเติม) การดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล (HI)และการดูแลรักษาในโรงพยาบาลสนาม สำหรับคนในชุมชน (CI)
8สปสช.2.57/ว.4035
2 กรกฎาคม 2564      
ซักซ้อมความเข้าใจแนวทาง COVID -19 กรณีค่าพาหนะการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา
9สปสช.2.57/ว.4168
7 กรกฎาคม 2564  
บริการตรวจหาเชื้อโรคโควิด -19 ผู้ให้กับประชาชนไทยทุกคนเข้ารับการกักกันใน Alternative Quarantine (AQ) 
10สปสช.6.70/ว.4320
9 กรกฎาคม 2564                                
แนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข (เพิ่มเติม) ค่าบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ค่าบริการกรณีเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนค่ายาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร  
11สปสช.6.70/ว.4322
11 กรกฎาคม 2564
แนวทางปฏิบัติการขอรับค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19
1) การตรวจคัดกรองวิธี Antigen Test kit (ATK)
2) การดูแลแบบ HI และ CI ลักษณะบริการแบบผู้ป่วยนอก
12สปสช.6.70/ว.4608
22 กรกฎาคม 2564
ซักซ้อมความเข้าใจการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับโรคติดเชื้อโควิด-19
1) กรณีดูแลใน HI/CI การขอ Authen และการส่งข้อมูลใน e-claim 2) แจ้งการปรับปรุงราคา RT-PCR,  Antigen , ค่าบริการดูแลผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และค่าพาหนะรับส่งต่อโดยใช้รถโดยสารขนาดใหญ่
13สปสช.6.70/ว.4615
23 กรกฎาคม 2564
ปรับวิธีการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีดูแลใน HI/CI ในงวดแรกแบบเหมาจ่าย 3,000 บาท เมื่อหน่วยบริการ Authencode
14สปสช.6.70/ว.4759
27 กรกฎาคม 2564
ซักซ้อมการตรวจคัดกรอง COVID-19 โดยใช้ ATK
15สปสช.6.70/ว.4760
27 กรกฎาคม 2564
การรับดูแลรักษาแบบ HI ผ่านระบบ PI Portal ของหน่วยบริการในพื้นที่ สปสช.เขต 13
16สปสช.6.70/ว.16689   
6 สิงหาคม 2564
แนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข สำหรับกรณีโรคโควิด-19 ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เพิ่มเติม
1) ปรับแนวทางการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 2) หลักเกณฑ์ เงื่อนไขการขอรับค่าใช้จ่ายฯ โควิด-19 เพิ่มเติม    ค่าออกซิเจน ค่าป้องกันการแพร่เชื้อการจัดการศพ ค่าห้อง ค่า PPEหรืออุปกรณ์ป้องกันฯ วิธีการขอรับค่าใช้จ่ายฯ HI/CI  
17สปสช.6.70/ว.5305 
23 สิงหาคม 2564
แจ้งปรับอัตราการจ่ายค่าดูแลการให้บริการผู้ป่วยโควิด 19 สำหรับการดูแบรักษาแบบ HI/CI ค่าดูแลการให้บริการผู้ป่วย สำหรับค่าติดตามประเมินอาการ ให้คำปรึกษา ค่ายาพื้นฐาน  จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 600 บาทต่อวัน (ไม่รวมค่าอาหาร 3 มื้อ) จำนวนไม่เกิน 14 วันค่าดูแลการให้บริการผู้ป่วย สำหรับค่าติดตามประเมินอาการ ให้คำปรึกษา ค่ายาพื้นฐาน รวมค่าอาหาร 3 มื้อ  จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 1,000 บาทต่อวัน จำนวนไม่เกิน 14 วัน   
18สปสช.6.70/ว.5731 ลว
8 กันยายน 2564
ขอความร่วมมือในการบริการผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 1) การขยายอายุของหนังสือส่งต่อผู้มีสิทธิทั้งกรณีผู้ป่วย และผู้ป่วยใน 2) พิจารณาการจัดบริการด้านยา และเวชภัณฑ์ โดยจัดส่งยา และเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์
19สปสช.6.70/ว.6006ลว
20 กันยายน 2564
แจ้งหลักเกณฑ์ การจ่ายชุดตรวจ ATK สำหรับประชาชนตรวจเอง
20สปสช.6.70/ว.6597 ลว
18 ตุลาคม 2564
แจ้งการโอนเงินล่าช้า เนื่องจากรองบประมาณ
21สปสช.6.70/ว.6857 ลว
1 พฤศจิกายน 2564
การขยายเวลา Authen กรณี HI-CI เป็น 5 วัน
22สปสช.6.70/ว.7151 ลว
11 พฤศจิกายน 2564
แจ้งซักซ้อมการให้บริการผู้ป่วยโควิด 19     ลดระยะเวลาการกักตัว (isolation) ลงจาก 14 และ 21 วัน สำหรับผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือเป็นผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ลงเหลือ 10 วันและ 20 วันตามลำดับ
23สปสช  6.70 / ว.7625 
29 พฤศจิกายน 2564                                  
แจ้งปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราจ่ายการให้บริการโรคโควิด 19 ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2565
24 สปสช. 6.70 / ว.8383 27 ธันวาคม 2564แจ้งหลักเกณฑ์และซักซ้อมแนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2565 ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติ
๑. หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข
กรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นกรณีที่มีเหตุสมควรฯ
๒. หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข
กรณีการคัดกรองธาลัสซีเมียและการคัดกรองซิฟิลิสในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์
๓. รายการโรคและหัตถการ สำหรับบริการ ODS, MIS (เพิ่มเติมรายการ)
๔. รายการเบิกจ่ายที่ขอ Authentication code (ปรับแก้ไข)
25สปสช. 6.70 / ว.8344
24 ธันวาคม 2564
ขอความร่วมมือในการบริการผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด 19
Happy
3 75 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
1 25 %
Exit mobile version