ประชุมชี้แจงแนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen test kit (ATK)

0 0
Read Time:1 Minute, 20 Second

ประชุมชี้แจงแนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) และการจ่ายชดเชยค่าบริการ สำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

เพื่อสร้างความเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานของหน่วยบริการที่เข้าร่วมดำเนินการแจกชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ให้กับประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง สปสช. จึงขอเชิญ ท่าน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เพื่อแจกประชาชน และการจ่ายชดเชยค่าบริการ สำหรับ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ของ สปสช.

  • กล่าวเปิดการประชุม และให้นโยบายการดำเนินการ โดย นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
  • นโยบายการจัดระบบบริการ สำหรับรองรับการให้บริการกรณีประชาชนเมื่อผลตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เป็นผลบวก โดย นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
  • แนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และรูปแบบการดำเนินการเพื่อแจกสำหรับประชาชน โดย นายแพทย์อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการ สปสช.
  • ภาพรวมระบบพิสูจน์การรับชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ของประชาชนผ่าน Application เป๋าตัง และระบบรายงานสำหรับหน่วยบริการ โดย ธนาคารกรุงไทย
  • เงื่อนไขการจ่ายชดเชยค่าบริการแจกชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) สำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย สายงานบริหารกองทุน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • หลักเกณฑ์ และแนวทางการตรวจสอบก่อนจ่าย สำหรับการแจกชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) โดย สายงานบริหารกองทุน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

ประชุมCFOครั้งที่2/2564

0 0
Read Time:1 Minute, 37 Second

การประชุมประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง
(Chief Financial Officer : CFO) หน่วยบริการสุขภาพ จังหวัดขอนแก่น
ครั้งที่ 2/2564 วันที่ 9 กันยายน 2564 เวลา 13.30-16.30 น.
ณ ห้องประชุมก่องข้าว ชั้น 3 อาคารใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น

  • ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 
    • ด้วย คณะกรรมการ CFO เขตสุขภาพที่ 7 ได้แจ้งการจัดสรรงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2565 และสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น จะต้องดําเนินจัดสรรปรับเกลี่ยเงินดังกล่าวให้แก่หน่วยบริการในสังกัดให้แล้วเสร็จ และแจ้งผลการปรับเกลี่ยให้เขตสุขภาพดำเนินการภายในวันที่ 5 ตุลาคม 2564 รวมทั้งหารือการบริหารจัดการการเงินการคลังในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เงินกัน Virtual account จังหวัดขอนแก่น เพื่อตามจ่ายแทน CUP กรณี ส่งต่อ อุบัติเหตุ/ฉุกเฉิน ในจังหวัด จึงเห็นควรจัดประชุม CFO จังหวัดขอนแก่น ขึ้นในวันนี้
  • ระเบียบวาระที่ ๒ รับรองรายงานการประชุม
    • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้สรุปรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารการเงินการคลัง (CFO) หน่วยบริการสุขภาพ จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564
  • ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องสืบเนื่อง
    •  3.1 …………………………………………………………………………………………………………………………………
    •  3.2 …………………………………………………………………………………………………………………………………
  • ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องเพื่อทราบ
    • 4.1 สรุปสถานการณ์การเงินการคลังหน่วยบริการในจังหวัดขอนแก่น ณ เดือนกรกฎาคม 2564
    • 4.2 แนวทางการบริหารกองทุน UC และการปรับเกลี่ยเงินกันบริหารระดับเขต/จังหวัด เขตสุขภาพที่ 7 ปีงบประมาณ 2565 และงบกองทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องเพื่อพิจารณา
    • ­5.1  แนวทางการปรับเกลี่ยเงินกันบริหารระดับเขต/จังหวัด และงบกองทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจังหวัดขอนแก่น ปีงบประมาณ 2565
    • 5.2  แนวทางการบริหารจัดการค่ายาที่โรงพยาบาลชุมชนสั่งซื้อยาจากโรงพยาบาลขอนแก่น

สรุปมติและข้อสั่งการจากการประชุม

ที่ลิงค์นี้
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

แนวทางเบิกค่ารักษาตามประกาศกรมบัญชีกลาง กรณีโควิด

0 0
Read Time:8 Minute, 2 Second

แนวทางการบันทึกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาล ที่เบิกผ่าน สกส.
ตามประกาศกรมบัญชีกลาง ว102, , ว130 , ว565 (หลักเกณฑ์การเบิก ในสถานการณ์ COVID-19 )

สำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ
21 ธันวาคม 2563

แนวทางการบันทึกข้อมูลนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับการเบิกค่ารักษาพยาบาล ตามประกาศ ของกรมบัญชีกลาง เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 หรือ โควิด19 สำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ (สกส. ในฐานะหน่วยงานที่รับงานการเบิกจ่ายขอกำหนดแนวทางการบันทึกข้อมูลเบิกดังนี้

1.รายการที่ให้เบิกตามประกาศฯ ข้อ4 และข้อ 5

ใช้รหัสรายการกรตรวจทางห้องปฏิบัติการ, ชุด, ค่าห้องและค่ายาตามรายการและอัตราที่กำหนดในตาราง

กลุ่มCSCODEคำอธิบายอัตรา
121401ค่าห้องดูแลโรคติดต่ออันตราย ต่อวันตามจริงไม่เกิน 2,500
2.1045001ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรเก็บตัวอย่าง (เฉพาะธุรกรรมก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2563)ตามจริงไม่เกิน 540
2.2045002ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรดูแลผู้ป่วยตามจริงไม่เกิน 740
3.1
3.2
3.3
3.4
3.5
3.6
3.7
3.8
3.9
3.10
3.X
รหัส TPUID ในระบบ TMTcholoquine
hydroxycholoquine
darunavir
favipiravir
lopinavir + ritonavir
oseltamivir
remdesivir
ritonavir
tocilizumab
azithromycin
(ยาอื่นที่ใช้กับกรณีนี้ได้ ซึ่ง สกส. จะทยอยประกาศ)
ตามจริงไม่เกิน 7,200
4.136590SARS coronavirus 2, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกิน 2,200*
4.236591SARS coronavirus 2 N gene, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกิน 2,200*
4.336592SARS coronavirus 2 RdRp gene, qualitative RT-PCRตามจริงไม่เกิน 2,200*
4.436593SARS coronavirus 2 IgG Ab [+1-] in Serum or Plasma by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.536594SARS coronavirus 2 IgM Ab [+/-] in Serum or Plasma by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.636595SARS coronavirus 2 IgG+IgM Ab [ +1-] in Serum or Plasma by Immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.736596SARS coronavirus 2 Ag [+1-] in Respiratory specimen by Rapid immunoassayตามจริงไม่เกิน 1,200
4.X(Lab อื่นที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่ง สกส. จะทยอยประกาศ)ตามจริงไม่เกิน 1,200
5ไม่กำหนดค่าชุด PPE และค่าทำความสะอาดเชื่อบนรถส่งต่อตามจริงไม่เกิน 3,700

หมายเหตุ:รายการในกลุ่ม 4 ได้รวมค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล(PPE) สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการแล้ว
*ปรับราคาลดลงจากตามจริงไม่เกิน 3,000 เหลือตามจริงไม่เกิน 2,200 และได้รวมค่าชุด PPE สำหรับเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างไว้ด้วย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 63 เป็นต้นไป

2.เงื่อนไขและข้อมูลการวินิจฉัยที่ต้องที่ระบุไว้ในธุรกรรม

2.1 รหัสเงื่อนไขที่ระบุว่าเป็น COVID
เงื่อนไขที่ใช้ระบุว่าเป็น COVID-19 คือ “COV-19”
2.2 รหัสวินิจฉัย (ICD-10)
กรณีรักษาแบบ OPD สงสัยเป็นกลุ่มเสี่ยงไม่แสดงอาการหรืออาการไม่รุนแรง
Z115: Special screening examination for other viral disease
เมื่อได้ผลตรวจกลับแล้วจึงส่งเบิก
หากผลเป็นลบ ไม่มีรหัสเพิ่มเติม
หากผลตรวจเป็นบวก มีการติดเชื้อให้เพิ่มรหัส U07.1: 2019 nCoV virus disease
การวินิจฉัยโรคอื่นที่พบในผู้ป่วยในครั้งเดียวกันนี้ก็บันทึกการวินิจฉัยตามปกติ ทั้งนี้อาการที่ให้รหัสเพิ่มอาจเกี่ยวข้องกับการดิดเชื่อ COVID หรือไม่ก็ได้ เช่น ไข้,คอแดง, ปวดเมื่อย เป็นต้น

กรณีรักษาแบบ OPD ตรวจติดตามหลังการรักษา

  • Z098: Follow-up examination after other treatment for other conditions
  • เมื่อได้ผลตรวจกลับแล้วจึงส่งเบิก
  • หากผลเป็นลบ ไม่มีรหัสเพิ่มเติม
  • หากผลตรวจเป็นบวก มีการติดเชื้อให้เพิ่มรหัส U07.1: 2019 nCoV virus disease

กรณีรับเป็นผู้ป่วยใน

  • มีอาการปอดติดเชื้อเป็นอาการสำคัญ
  • J12.8: Other virus pneumonia
  • ถ้ามีอาการอื่นๆ
  • รหัส ICD 10 ของโรค/อาการนั้นๆ
  • ผลการตรวจ COVID เป็นการชี้ชัดเหตุของอาการ
  • หากผลเป็นลบ ไม่มีหัสเพิ่มเติม
  • หากผลตรวจเป็นบวก มีการติดเชื้อให้เพิ่มรหัส
    • U07.1: 2019 nCoV virus disease
    • B97.2: Coronavirus as the cause of diseases classified to other chapters
  • หากมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ให้เพิ่มรหัส J96.0x: Acute respiratory failure

3.การบันทึกข้อมูลเบิกในธุรกรรมเบิก

3.1 การรักษา กรณี OPD

  • การบันทึกธุรกรรมเบิกผู้ป่วยนอกใช้ระบบ CSOP รุ่น 0.93
  • ระบุรายการเบิกค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรเก็บตัวอย่าง (กลุ่ม2.1) (เฉพาะธุรกรรมก่อน 1 ธ.ค.2563/ และค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ(กลุ่ม4) ใน
  • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ใน BilTran.AuthCode
  • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ใน
  • หมายเหตุ กรณีได้ส่งเบิกผ่านไปแล้วก่อนประกาศนี้ สถานพยาบาลสามารถส่งรายการเบิกเพิ่มได้ โดยสร้างธุรกรรมเบิกใหม่ ใช้ Invno ใหม่ และอ้างอิง Approval Code ของธุรกรรมที่เบิกผ่านไปแล้ว

3.2 การรับเป็นผู้ป่วยใน

  • 3.2.1 กรณีรักษาในสถานพยาบาล
  • 3.2.1.1 โปรแกรม CSMBS
    • ต้องปรับปรุงแฟ้ม MedEquipdev และบันทึกธุรกรรมเบิกหมวดค่าใช้ต่างๆ ดังนี้
    • ค่าห้องดูแลโรคติดต่ออันตราย(กลุ่ม1) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 1
    • ค่าชุด PPE (กลุ่ม2) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 2
    • ค่ายา(กลุ่ม3) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 3
    • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ(กลุ่ม4) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 7
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ในหน้า รับ/จำหน่าย ช่อง ProjectCode
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ในหน้า วินิจฉัย/หัตถการ
  • 3.2.1.2 ระบบ CIPN
    • ข้อมูลการเบิกในแฟ้ม
    • ระบุรายการเบิกตามตารางในข้อ 1. ไว้ใน
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ใน
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ใน
  • 3.2.2 กรณีรักษาในสถานที่พักฟื้นเพื่อรอจำหน่าย
  • 3.2.2.1 โปรแกรม CSMBS
    • การเบิกค่ารักษาในกรณีอยู่ในสถานที่พักฟื้นรอการจำหน่าย
    • สถานพยาบาลต้องจำหน่ายผู้ป่วยจากสถานพยาบาลในข้อ 3.2.1
    • ในสถานที่พักฟื้น ให้รับเป้นผู้ป่วยใน โดยใช้ HN เดิม และ AN ใหม่ จากข้อ 3.2.1
    • ให้เลือกเบิกเป็น ประเภทบริการ/รักษา เลือก “อื่น ๆ” ช่อง type ระบุ “CO”
    • ค่าชุด PPE (กลุ่ม2) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 2
    • ค่ายา(กลุ่ม3) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 3
    • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ(กลุ่ม4) ให้บันทึกในหน้าค่ารักษาหมวดที่ 7
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ในหน้า รับ/จำหน่าย ช่อง ProjectCode
    • ระบุ 4 หลักสุดท้ายของรหัสสถานพยาบาลพักฟื้นชั่วคราว ในหน้า วินิจฉัย/ห้ตถการ ช่อง จากward เช่น รหัส “XM001” ระบุค่า “M001”
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ในหน้า วินิจฉัย/หัตถการ
  • 3.2.2.2 ระบบ CIPN
    • ข้อมูลการเบิกในแฟ้ม
    • ระบุรายการเบิกตามตารางในข้อ 1. ไว้ใน
    • ระบุรหัสเงื่อนไขข้อ 2.1 ใน ClaimAuth.ProjectCode
    • ระบุ “CO” ใน ClaimAuth.ServiceType
    • ระบุการวินิจฉัยตามข้อ 2.2 ใน
    • ระบุ 4 หลักสุดท้ายของรหัสสถานพยาบาลพักฟื้นชั่วคราว ใน IPADT.dischWard เช่น รหัส “XM001” ระบุค่า “M001”

3.3การเบิกค่ารถส่งต่อ

  • 3.3.1 การเบิกค่ารถส่งต่อ ค่าชุด PPE และค่าทำความสะอาดเชื้อบนรถส่งต่อ
    • เบิกผ่านระบบเบิกค่ารถส่งต่อ(AmbtrCS)ตามปกติ โดยระบุข้อมูลเพิ่มเดิมดังนี้
    • ให้เลือก (คลิก )กรณี “อุบัติเหตุหรือฉุกเฉินในภาวะวิกฤติ”
    • เหตุผลที่ส่งต่อที่ 1. ระบุเป็น “COVID-19”
    • เหตุผลที่ส่งต่อที่ 2. ระบุจำนวนเงินที่ขอเบิกค่าชุด PPE และค่าทำความสะอาดเชื้อบนรถส่งต่อ
  • 3.3.2 การเบิกค่ารถ กรณีส่งต่อเพื่อไปสถานที่พักฟื้น
    • เบิกผ่านระบบเบิกค่ารถส่งต่อ(AmbtrCS)ปกติตามข้อ 3.3.1 ซึ่งรวมกรณีส่งต่อจากสถานที่พักฟื้นไปสถานพยาบาลด้วย โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
    • สกส. ออกรหัสสถานพยาบาลชั่วคราวสำหรับสถานที่พักฟื้นเป็นการเฉพาะ สถานพยาบาลแจ้งขอ/ตรวจสอบรหัสสถานพยาบาลชั่วคราวได้ที่ www.chi.or.th
    • ให้ใช้รหัสชั่วคราว เป็นรหัสถานพยาบาลต้นทาง หรือปลายทางแล้วแต่กรณี
    • สถานพยาบาลที่เป็นเจ้าของรถส่งต่อ ไม่ใช่หัสสถานพยาบาลชั่วคราว
    • สำหรับขั้นตอนส่งข้อมูล,เอกสารตอบรับ,Statement และคำขอเบิก เป็นแนวทางเดียวกันกับแต่ละระบบใช้อยู่เป็นปกติ

4.การเบิกค่ายา กรณีส่งยาให้ผู้ใช้สิทธิทางไปรษณีย์

  • การส่งยาทางไปรษณีย์หรือการรับยานอกสถานพยาบาล เป็นมาตรการลดการแพร่กระจายของโรคในสถานการณ์โรคติดต่อร้ายแรง ไม่ได้เจาะจงกับโรค COVID19 นี้
  • แนวทางนี้ใช้เฉพาะกิจตามข้อ 8 ในประกาศฯ กับผู้ป่วยที่ไม่ได้มาสถานพยาบาลเท่านั้น เมื่อมีการพัฒนาแนวทางการนยันการรับยาใหม่ขึ้นมา ก็จะมีการประกาศปรับเปลี่ยนให้ทราบเพื่อใช้แทน
  • แนวทางการทำธุรกรรม
  • ส่งข้อมูลเบิกผ่านระบบ CSOP รุ่น 0.93
  • ธุรกรรมที่เบิก เป็นค่าใช้จ่ายค่ายาตามระบบปกติ เท่านั้น
  • Approval Code ให้ดำเนินการผ่านระบบ KTB Corporate Online โดยบันทึกเหตุผลว่า “ส่งยา”
  • ให้ใส่ Tracking Number ในช่อง BillTran.VerCode ต่อท้าย Approval Code โดยคั่นด้วยเครื่องหมาย “:”

5.การเบิกกรณีที่เข้าข่าย ORS

  • สกส.จะประมวลผลข้อมูลกรณีเข้าข่าย ORS ตามวิธีการและแนวปฏิบัติดาม ว187 (17 พ.ค. 2556) โดยจะปรับค่า Outlier Loss Threshold (OLT) ของแต่ละสถานพยาบาลให้ลดลงร้อยละ 70 ของค่า OLT เดิม ทั้งนี้เฉพาะกรณีการรักษาผู้ป่วยในที่จำหน่ายดั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 และมีการวินิจฉัยเป็น COVID-19
  • เมื่อสถานพยาบาลได้รับแจ้งกรณีที่เข้าข่าย ORS จาก สกส. ให้ปฏิบัติตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2. ของ ว187 (17 พ.ค. 2556 ) ขั้นตอนการพิจาณา ORS และการจ่ายชดเชย จะเป็นไปดามกระบวนการ ORS

ไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้อง

Happy
4 80 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
1 20 %
Surprise
0 0 %

cpg-covid19 อัพเดต09ก.ย.64

0 0
Read Time:15 Second

แนวทางเวชปฏิบัติ cpg การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

ลดเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40 นาน 6 เดือน ตั้งแต่ ส.ค. 2564–ม.ค. 2565

0 0
Read Time:49 Second

จ่ายน้อยแต่คุ้มครองนะ คนทำงานอิสระจ่ายเงินสมทบถูกลงนาน 6 เดือน เช็กด่วน!

แรงงานอิสระมีเฮ! ประกันสังคมลดเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40 นาน 6 เดือน ตั้งแต่ ส.ค. 2564–ม.ค. 2565 ในอัตราใหม่ 3 ทางเลือก

✅ ทางเลือกที่ 1 คุ้มครอง 3 กรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายจากเดิมจ่ายในอัตรา 70 บาท/เดือน อัตราใหม่ลดเหลือ 42 บาท/เดือน
✅ ทางเลือกที่ 2 คุ้มครอง 4 กรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ จากเดิมจ่ายในอัตรา 100 บาท/เดือน อัตราใหม่ลดเหลือ 60 บาท/เดือน
✅ ทางเลือกที่ 3 คุ้มครอง 5 กรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ สงเคราะห์บุตรจากเดิมจ่าย ในอัตรา 300 บาท/เดือน อัตราใหม่ลดเหลือ 180 บาท/เดือน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

ประชุมชี้แจงแนวทางการขอทักท้วงฯและสรุปผลการตรวจสอบก่อนการจ่ายชดเชย กรณีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)

0 0
Read Time:31 Second

ประชุมชี้แจงแนวทางการขอทักท้วงฯและสรุปผลการตรวจสอบก่อนการจ่ายชดเชย กรณีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear)

สปสช.เขต7 ขอนแก่นจะจัดประชุมประชุมชี้แจงแนวทางการตรวจสอบ สรุปผลการตรวจสอบ และการยื่นขออุทธรณ์ของหน่วยบริการ กรณีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) จึงขอเชิญรพ./รพ.สต.เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom

หัวข้อการชี้แจง

  • วัตถุประสงค์การประชุม
  • การจ่ายชดเชยการให้บริการสงเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear / VIA
  • การตรวจสอบก่อนจ่าย(Pre audit)
  • ผลการตรวจสอบ/รายละเอียดประเด็นที่พบ
  • ขั้นตอนวิธีการขอทักท้วงผลการตรวจสอบ
  • แนวทางการจัดทำเอกสารแฟ้มเวชระเบียนเพื่อรองรับการตรวจสอบ
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

Error Code ระบบ CSOP

0 0
Read Time:9 Minute, 20 Second

Error Code การส่งเบิกจ่ายในระบบ CSOP ของ สกส.พร้อมคำอธิบายและความหมาย เริ่มใช้เมื่อ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

errcodeคำอธิบาย/ความหมายรหัสเดิม
A00approval code ว่างA0
A01approval code ไม่ถูกต้อง/ไม่พบในฐานข้อมูล EDCA1
A02approval code ถูกยกเลิกแล้วA2
A03เลขบัตรประชาชนไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้งไว้กับเครื่อง edcA3
A04จำนวนเงินไม่ตรงกับที่แจ้งไว้กับเครื่อง edcA4
A05วันที่ทำธุรกรรมไม่ตรงกับที่แจ้งไว้กับเครื่อง edcA5
A06approval code ถูกใช้เบิกไปแล้วA6
A07วันที่ออก Approval Code หลังวันรับบริการเกิน 72 ชม.A7
C00รพ.แจ้งขอยกเลิกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาลC0
C00รพ.แจ้งขอยกเลิกข้อมูลเบิกค่ารักษาพยาบาล79
C01ไม่มีสิทธิ ณ วันรักษา22
C01ไม่มีสิทธิ22
C02วันที่รักษาไม่มีสิทธิ53
C04มีการส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนใน รพ.เดียวกัน (ส่งเบิกต่างวันกัน)55
C05มีการส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนใน รพ.เดียวกัน (ส่งเบิกในวันเดียวกัน)56
C06Authcode ไม่ถูกต้อง16
C06Authcode ไม่ถูกต้อง17
C11ใช้สิทธิ กทม. แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7D
C12ใช้สิทธิ กสทช. แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7E
C13ใช้สิทธิ กกต. แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7F
C14ใช้สิทธิ เมืองพัทยา แต่ รพ.ไม่เข้าร่วมโครงการหรือใช้สิทธินอกช่วงการเข้าร่วมโครงการ7G
C15วันที่รับบริการหลังวันที่ 30 กย.56 และเป็น รพ. ที่อยู่นอกหนือจาก 168 แห่งตาม ว.3507A
C21ส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนกับการเบิกเหมาจ่ายค่าฟอกไต(HD)57
C22ส่งเบิกค่ารักษาฯ ซ้ำซ้อนกับช่วงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล(IPD)58
C31ไม่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 
E01เบิกยากลับบ้าน ตามประกาศ ว.182 วันที่รับบริการ(Dttran) # วันที่จำหน่ายออกจาก รพ.(DateDsc)74
E02เบิกยากลับบ้าน ตามประกาศ ว.182 ไม่พบรายการยาที่ขอเบิก75
E03เบิกค่ายากลับบ้าน ตามประกาศ ว.182 รายการยาไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข76
E04เบิกยากลับบ้าน ว.182 Dttran ก่อน 1 กค. 59 (ให้นำเบิกกรณีเบิกยาย้อนหลัง) หรือ ยอดเบิกยาไม่ตรงกับที่ สกส. อนุมัติ77
E05เบิกค่ายากลับ ตาม ว.182 แต่เลขอนุมัติผป.ใน ที่แจ้งไม่ถูกต้อง78
E06เบิกยากลับบ้าน ว.182 เบิกหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่หมวดยา7B
F11DTTran อยู่นอกช่วงการอนุมัติขอใช้ยาควบคุมเฉพาะ OCPA54
F12มีการใช้ยา OCPA แต่ไม่ได้ลงทะเบียน OCPA54
F13มียามะเร็งและโลหิตวิทยาที่ห้ามเบิกในระบบจ่ายตรงตาม ว.34 แนบ39T
F14มีการเบิกยาห้ามเบิก ( เบิกไม่ได้ทั้งจ่ายตรงและจ่ายต้นสังกัด)9Y
F21DTTran อยู่นอกช่วงการอนุมัติขอใช้ยาควบคุมเฉพาะ RDPA54
F22มีการใช้ยา RDPA แต่ไม่ได้ลงทะเบียน RDPA54
F23เบิกยา RDPA เกินอัตราที่กำหนดตาม ว.16654
F31DTTran อยู่นอกช่วงการอนุมัติขอใช้ยาควบคุมเฉพาะ DDPA54
F32มีการใช้ยา DDPA แต่ไม่ได้ลงทะเบียน DDPA54
G01ไม่พบรหัสยาในรายการยาที่ รพ. แจ้งไว้99
G02เป็นยาควบคุม 9 กลุ่ม (TMT) แต่ไม่แจ้งเงื่อนไขกำกับการเบิก9C
G03DrugCatalog ไม่ถูกต้อง (รหัส TMT ไม่ถูกต้อง/ราคาเบิกสูงผิดปกติ )9D
G04ระบุ claim control เป็น EF (ไม่เบิก)  แต่มีการเบิกค่ายา9E
G05ระบุรหัส TMT ในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems แต่ไม่ระบุใน Drug Catalog9J
G06ไม่ระบุรหัส TMT ในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems แต่ระบุใน Drug Catalog9K
G07ระบุรหัส TMT ในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems และระบุใน Drug catalog แต่ระบุไม่ตรงกัน9L
G08ไม่ระบุรหัส TMT ทั้งในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems และใน Drug Catalog9N
G09ประเภทยาและเวชภัณฑ์ (Product Category) ใน DispensedItems และ Drug Catalog ไม่ตรงกัน9P
G10ราคายาไม่ตรงกับ Drugcatalog9Q
G11DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้9R
G12ไม่พบรายการยาใน drug catalog กลาง9U
G13ราคาเบิกยาไม่อยู่ในช่วงราคาให้เบิกของ drug catalog กลาง9V
L01รหัส TMLT ที่ระบุใน billitem ไม่พบในรายการอ้างอิงการตรวจทางห้องปฏิบัติการ  (TMLT)31
L02ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)32
L02ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)BJ
L02ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)BL
L03ราคา RP เกินอัตราที่ บก. กำหนด33
L03ราคา RP เกินอัตราที่ บก. กำหนดBN
L04ราคา UP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalog34
L04ราคา UP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalogBM
L05DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้35
L05DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้BP
L06ราคา RP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalog36
L07ไม่มี stdcode37
L08รหัสค่าบริการโลหิต และส่วนประกอบของโลหิต ใน billitem ไม่พบในรายการที่ให้เบิกBK
L09รหัสค่าบริการโลหิต และส่วนประกอบของโลหิต ราคาเกินที่ให้เบิกBK
L10รหัสค่าบริการโลหิต และส่วนประกอบของโลหิต วันที่ไม่อยู่ในช่วงที่ให้เบิกBK
Q01รหัสอุปกรณ์ที่ระบุใน billitem ไม่พบในรายการที่ให้เบิกBK
Q02ราคารหัสอุปกรณ์เกินอัตราที่ บก. กำหนดBN
Q03DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ให้เบิกอุปกรณ์นี้ได้BP
R01Dispense ID ซ้ำ กับที่เคยส่งมาแล้ว90
R02Dispense ID ใน Dispensing link ไม่ได้กับ DispensedItems / จำนวนไม่เท่ากับ Items Count ที่ระบุ91
R03Dispense ID ใน DispensedItems link ไม่ได้กับ Dispensing92
R04ยอดเบิกของ Dispensing และ DispensedItems ไม่ตรงกัน93
R05Dispense ID ซ้ำในไฟล์เดียวกัน90
R12ขาดข้อมูลที่กำหนดว่าต้องมี (required) และระบุไม่ตรงกับรูปแบบที่ประกาศไว้94
R13BenefitPlan ไม่ถูกต้อง94
R14DispeStat ไม่ถูกต้อง94
R15MultiDisp ไม่ถูกต้อง94
R16SupplyFor ไม่ถูกต้อง94
R17PrdCat ไม่ถูกต้อง94
R18PrdSeCode ไม่ถูกต้อง94
R19Claimcont ไม่ถูกต้อง94
R20ClaimCat ไม่ถูกต้อง94
R21เลข ว. แพทย์ไม่ถูกต้องตามรูปแบบที่กำหนด9A
R22ขาดข้อมูลขนาดบรรจุ94
R23ขาดชื่อ dose, form, strength94
R24ขาดวิธีการใช้ยา94
R31ใน BillTran มีการเบิกค่ายา แต่ขาดข้อมูลยาใน BillDisp95
R32มีข้อมูลยาใน BillDisp  แต่ไม่มีการเบิกค่ายาใน BillTran96
R33ยอดเบิกยาใน Billtran ไม่เท่ากับ Dispensing97
R34HN ในข้อมูลยาไม่ตรงกับ HN ใน BILLTRAN9F
R35Pid ในข้อมูลยาไม่ตรงกับ Pid ในทะเบียนผู้ป่วย (Pid : เลขประจำตัวประชาชน)9G
R41จำนวนเงินที่ขอเบิกไม่ถูกต้อง (charge # claim+paid+other)98
R42Charge amount  ไม่ถูกต้อง (quantity x unit price)9H
R43Reimb amount  ไม่ถูกต้อง (quantity x reimb price)9I
R51รหัสยา TMT ที่ระบุในฟิลด์ Drug ID ของ DispensedItems ไม่พบในบัญชีรายการยาและ รหัสยามาตรฐานไทย (TMT)9M
R52เบิกยามากกว่าที่กำหนด9S
R53มีการเบิก EPO ในผู้ป่วยฟอกไต9X
S01SVID ซ้ำกับรายการที่ส่งเบิกมาแล้วC1
S02SVID ซ้ำกับรายการที่ตรวจวันเดียวกันC2
S03Class ของ OPServices ไม่ถูกต้อง หรือไม่สอดคล้องC3
S04CareAccocnt ไม่ถูกต้องC4
S05TypeServ ไม่ถูกต้องC5
S06TypeIn ไม่ถูกต้องC6
S07TypeOut ไม่ถูกต้องC7
S08Clinic ไม่ถูกต้องC8
S09CodeSet ของ OPServices ไม่ถูกต้องC9
S10CodeSet ของ OPDX ไม่ถูกต้องD3
S11Completion ไม่ถูกต้องCA
S12ClaimCat ไม่ถูกต้องCB
S13SL ไม่ถูกต้องD2
S14DTAppoint ไม่ถูกต้องCC
S15เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ (SVPID) ไม่ถูกต้องCD
S16วันที่เริ่มต้นให้บริการไม่สัมพันธ์กับ BilltranCE
S17วันที่สิ้นสุด (ENDDT) ใน OPServices ไม่ถูกต้องCF
S18รหัสวินิจฉัยไม่ถูกต้องหรือไม่สัมพันธ์กับ CodeSetD4
S19รหัสการให้บริการไม่ถูกต้องหรือไม่สัมพันธ์กับ CodeSetCG
S20SVCharge ใน OpService ไม่เท่ากับ ChargeAmt ใน BillItems  หมวดค่าธรรมเนียมบุคลากรทางการแพทย์CL
S21SVCharge ใน OpService ไม่เท่ากับ ChargeAmt ใน BillItems หมวดค่าทำหัตถการและวิสัญญีCL
S31Inv No. ใน OPServices ไม่ตรงกับ Inv No. ใน BilltranCH
S32Hn ใน OPServices ไม่ตรงกับ Hn ใน BilltranCH
S33PID ใน OPServices ไม่ตรงกับ PID ใน BilltranCJ
S34SVID ใน OPDX ไม่พบใน OPServicesD5
S35Class ใน OPDX ไม่พบใน OPServicesD6
S36ไม่พบรายการ Service ใน BillItemsCK
S40Class ใน OPServices เป็น การตรวจรักษา (EC) แต่ไม่แจ้งรหัสวินิจฉัยโรคที่ แฟ้ม OPDXD7
S41Class ใน OPServices เป็น หัตถการ (OP) แต่ไม่แจ้งรหัสหัตถการ ที่ STDCode แฟ้ม OPServicesD8
S43Class ของ OPDX ไม่ถูกต้องD1
T01InvNo ซ้ำในวันเดียวกัน12
T02InvNo ซ้ำกับที่เคยเบิกแล้ว12
T03ไม่ระบุ HN ในรายการ21
T04ไม่ระบุ Station51
T05วันที่รักษาไม่ถูกต้อง52
T06PayPlan ไม่ถูกต้องBE
T07TFlag ไม่ถูกต้องB3
T08รหัสสิทธิที่ร่วมจ่ายไม่ถูกต้อง (Otherpayplan)B4
T09มีรายการ OPBills ของ InvNo นี้ใช้รหัสหมวดไม่ถูกต้อง63
T09รหัสหมวด (BillMuad) ไม่ถูกต้องB5
T10รหัสประเภทบัญชีการเบิก (ClaimCat) ไม่ถูกต้องB6
T11LCCode ไม่ถูกต้องB7
T12STDCode ใน dispsitem ไม่พบใน billitem สำหรับหมวด 3 และ 4B8
T13Qty ไม่ถูกต้องB9
T14UP ไม่ถูกต้องBA
T15SVRefID ไม่ถูกต้อง กรณีเป็นหมวด 3 และ 5BB
T16SVRefID ไม่ถูกต้อง กรณีเป็นหมวด IBB
T17SVRefID ไม่ถูกต้อง กรณีเป็นหมวด BBB
T31ไม่มีรายการ OPBills ของ BillTran นี้ (ใช้ InvNo เป็น key)62
T32ผลรวมของ Paid + ClaimAmt + OtherPayB1
T33ยอดรวม Amount, Paid ของ InvNo นี้ไม่ตรงกับที่แจ้งใน OPBills64
T41รายการ OPBills นี้ไม่มี BillTran กำกับมาด้วย65
T42SVDATE ไม่สัมพันธ์กับ BilltranBD
T43ราคาที่เรียกเก็บ ChargeAmt ไม่เท่ากับ ราคาขายต่อหน่วย UP x จำนวน Qty66
T44ยอดเงินที่ขอเบิก ClaimAmount ไม่เท่ากับ ราคาเบิกได้ต่อหน่วย ClaimUP x จำนวน Qty66
T45ผลรวมจำนวนเงินขอเบิก ClaimAmount  ไม่เท่ากับยอดเงินที่ขอเบิกรวม ClaimAmtB2
T61รายการลบหรือแก้ไขที่ไม่พบ Inv No. เดิม 
T71Paid มากกว่า Amount67
T72เบิกค่ารักษาพยาบาลรวมต่ำผิดปกติ (< 14)68
T73หมวดค่าบริการทางการพยาบาลสูงผิดปกติ69
T74เบิกค่าบริการการพยาบาล 50 บาท มากกว่า 1 ครั้งในบริการวันเดียวกันและ invno ต่างกัน6A
T75เบิกค่ารักษาพยาบาลรวมสูงผิดปกติ70
T76มีการเบิกค่าห้องเกินอัตราที่กำหนด(100 บาท/วัน)72
T77Amount ไม่ใช่ข้อมูลชนิดตัวเลข, เป็น 0 หรือ ติดลบ61
T78เบิกค่าบริการผู้ป่วยนอก 50 บาท ในผู้ป่วยที่มีการนัดมาทำหัตถการต่าง ๆ7C
T79มีการเบิกค่ารักษาอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษา/ยอดติดลบ73
T80มียอด Otherpay แต่ไม่แจ้งรหัสสิทธิร่วมจ่าย(OtherPayPlan)BG
T81ใน BillItem มีหมวดหัตถการและวิสัญญี ไม่พบรายการใน OPServices (Class = OP)BC
T82เบิกอุปกรณ์อวัยวะเทียม(หมวด 2) ที่ไม่สามารถเบิกในผู้ป่วยนอกได้BU
T83Otherpayplan ไม่ถูกต้องBF
V01ระบุเงื่อนไขว่าเป็นกรณี COVID-19 แต่ไม่มีการแจ้งค่ารักษาฯ เกี่ยวกับกรณี COVID-19BS
V02เบิกค่ารักษาฯ กรณี COVID-19 ไม่ระบุรหัสเงื่อนไขว่าเป็นกรณี COVID-19(AuthCode ใน BillTran)BR
V03เบิกค่ารักษาฯ กรณี COVID-19 ไม่มีรหัสโรคที่บ่งบอกเฉพาะการติดเชื้อ COVID-19DA
V04เบิกค่ารักษาฯ กรณี COVID-19 ที่มิให้เบิกเป็น กรณี ผู้ป่วยนอกBT
W31รหัส TMLT ที่ระบุใน billitem ไม่พบในรายการอ้างอิงการตรวจทางห้องปฏิบัติการ  (TMLT)W31
W32ไม่พบรหัส lab ในรายการ lab catalog ที่ รพ. แจ้งไว้  (hcode+lccode+stdcode)W32
W33ราคายา RP เกินอัตราที่ บก. กำหนด / ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalogW33
W34ราคายา UP ไม่ตรงกับราคาที่แจ้งใน lab catalogW34
W35DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ รพ. แจ้งใช้ราคายานี้W35
WBKSTDCode นี้ไม่มี/ไม่พบในบัญชีรายการWBK
WBNราคาขอเบิกสูงกว่าอัตรากำหนดWBN
WBPวันที่ใช้บริการ ไม่อยู่ในช่วงเวลาที่ให้เบิกได้WBP
WBUเบิกอุปกรณ์อวัยวะเทียม(หมวด 2) ที่ไม่สามารถเบิกในผู้ป่วยนอกได้WBU
WC0รายการเบิกจากการอุทธรณ์ 
WE0รายการเบิกค่ายากลับบ้าน ตามประกาศ ว.18289
WS1SL ไม่ถูกต้องD2
WS2รหัสการให้บริการไม่ถูกต้องหรือไม่สัมพันธ์กับ CodeSetCG
X01รหัสค่าใช้จ่ายทางรังสีวิทยาใน billitem ไม่พบในรายการที่ให้เบิกBK
X02ราคาค่าใช้จ่ายทางรังสีวิทยาเกินอัตราที่ บก. กำหนดBN
X03DTTran ไม่อยู่ในช่วงที่ให้เบิกค่ารักษาทางรังสีวิทยานี้ได้BP
Happy
4 80 %
Sad
0 0 %
Excited
1 20 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

แนวปฏิบัติการเบิกค่ายากลับบ้านแยกต่างหากจากค่ารักษาผู้ป่วยในระบบ DRGs

0 0
Read Time:5 Minute, 0 Second

แนวปฏิบัติการเบิกค่ายากลับบ้านแยกต่างหากจากค่ารักษาผู้ป่วยในระบบ DRGs สำหรับหน่วยบริการที่เบิกผ่าน สกส.

ตามประกาศกรมบัญชีกลางเลขที่ กค 0431.4/ว.182 วันที่ 29 เมษายน 2559 เรื่อง การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยในตามเกณฑ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ซึ่งกำหนดให้การส่งเบิกค่า “ยากลับบ้าน” ในระบบผู้ป่วยนอก โดยวิธีการส่งข้อมูลให้เป็นไปตามที่สำนักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพ(สกส.) กำหนด เพื่อให้สถานพยาบาลปรับปรุงวิธีการเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในด้วยระบบ DRGs ในการเบิกค่ายาส่วนนำกลับได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สกส. จึงกำหนดแนวปฏิบัติการส่งเบิกค่ายากลับบ้านตามประกาศข้างต้น ดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่งเบิกค่ายากลับบ้าน

  1. เลขอนุมัติผู้ป่วยในที่ขอได้จากระบบขอเลขอนุมัติผู้ป่วยในจะถูกใช้เป็นเลขอ้างอิง การขอเลขอนุมัติฯ ตั้งแต่รับผู้ป่วยในไว้และเก็บแบบพิมพ์ไว้อ้างอิง จะช่วยให้บันทึกข้อมูลเบิกได้สะดวกและไม่ผิดพลาด
  2. แพทย์ผู้สั่งยาเป็นผู้พิจารณาว่ารายการยาใดเป็นยากลับบ้านตามเงื่อนไขในประกาศฯ
  3. เฉพาะรายการที่ถูกระบุว่าเป็นยากลับบ้านให้ส่งเบิกด้วยแนวปฏิบัตินี้ ยาอื่นให้ระบุค่ายาผู้ป่วยในซึ่งเบิกในระบบ DRG โดยค่ายาผู้ป่วยในต้องไม่ซ้าซ้อนกับค่ายากลับบ้านนี้
  4. ข้อมูลธุรกรรมเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกของการเบิกนี้ประกอบด้วย
    • 4.1. รายการในส่วน billtran 1 รายการต่อการจำหน่ายครั้งหนึ่งเท่านั้น
    • 4.2. รายการ billtran นี้ระบุเลขอนุมัติผู้ป่วยในครั้งนี้ไว้ในฟิลด์ authcode (ตามภาพที่ 1)
    • 4.3. รายการ opbill 1 รายการอันเป็นรายละเอียดของ billtran ข้างต้น ระบุเป็น หมวด 4 (ค่ายากลับบ้าน) และมูลค่ายา
    • 4.4. รายการ billdisps ที่เป็นข้อมูลใบสั่งยากลับบ้านแต่ละใบ กรณีที่มีใบสั่งยากลับบ้านมากกว่า 1 ใบในการจำหน่ายครั้งนั้น ให้ทำรายการ billdisps ตามจำนวนใบสั่งยาแล้วรวบส่งใน billtran เดียวกัน
ภาพที่ 1 ระบุเลขอนุมัติผู้ป่วยในครั้งนี้ไว้ในฟิลด์ authcode ในข้อ 4.2

ระยะเวลาในการส่งข้อมูล

การเบิกค่ายากลับบ้านถือเป็นการเบิกในระบบผู้ป่วยนอกประเภทหนึ่ง เพื่อให้การเบิกจ่ายมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดรายละเอียดระยะเวลาในการส่งข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

  1. กำหนดระยะเวลาการส่งเบิกค่ายากลับบ้านสัมพันธ์กับการส่งเบิกผู้ป่วยในดังนี้
    • 5.1. กรณีส่งเบิกค่ายากลับบ้านก่อนส่งเบิกผู้ป่วยใน สถานพยาบาลจะต้องส่งเบิกผู้ป่วยในภายใน 90 วันนับจากวันที่การเบิกค่ายากลับบ้านผ่าน
    • 5.2. กรณีส่งเบิกผู้ป่วยในก่อนส่งเบิกค่ายากลับบ้าน สถานพยาบาลจะต้องส่งเบิกค่ายากลับบ้านภายใน 15 วันนับจากวันที่การเบิกผู้ป่วยในผ่าน

เงื่อนไขในการตรวจสอบข้อมูลเบิก

เงื่อนไขการตรวจรับข้อมูลการเบิกค่ายากลับบ้านที่เพิ่มเติมจากการตรวจสอบข้อมูลเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกปกติคือ

  1. วันที่ของการจ่ายยากลับบ้านที่สอดคล้องกับวันที่จาหน่ายผู้ป่วยในรายที่เบิก
  2. วันที่การส่งเบิกอยู่ในระยะที่ข้อ 5.1 และ 5.2 กำหนด วันที่ส่งเบิกนับจากวันที่ธุรกรรมผ่านการตรวจรับ
  3. รายการยากลับบ้านที่ตรวจผ่านแล้ว จะถูกนำมาตรวจว่าตรงกับเงื่อนไขยากลับบ้านตามประกาศอีกครั้งทุก 3 เดือน รายการยาที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขจะถูกระงับการจ่ายย้อนหลัง โดยแจ้งเป็นรายการที่ถูกระงับพร้อมแสดงยอดปรับปรุงหักออกจากยอดเบิกใน statement สถานพยาบาลสามารถแจ้งขออุทธรณ์โดยส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้าระบบเบิกจ่ายตรงอีกครั้งภายใน 30 วันนับจากวันออก statement

การรายงานผลในตอบรับรายวัน บัญชีรายการเบิกค่ารักษา(Statement) และคำขอเบิก

การตอบรับยากลับบ้าน ตอบในเอกสารตอบรับรายวันตามรอบระยะเวลาเช่นเดียวกับการเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกปกติ

กรณีผู้ใช้สิทธิไม่สามารถหรือยังไม่ได้ลงทะเบียนจ่ายตรงกับสถานพยาบาล

โดยที่ระบบจ่ายตรงผู้ป่วยนอกใช้ทะเบียนจ่ายตรงของแต่ละสถานพยาบาลอ้างอิง กรณีผู้ใช้สิทธิไม่มีข้อมูลในฐานทะเบียนบุคลากรภาครัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนได้ จำเป็นต้องสำรองจ่ายก่อนแล้วเบิกจากต้นสังกัดภายหลัง เพื่อให้สถานพยาบาลทราบปัญหานี้ ขอแนะนำให้ดาเนินการดังนี้

  1. สถานพยาบาลขอเลขอนุมัติผู้ป่วยในให้กับผู้ป่วยในที่ใช้สิทธิสวัสดิการฯทุกรายตั้งแต่แรกรับ
  2. ระบบจะแจ้งสถานะผู้ขอว่าเป็นผู้มีสิทธิและอยู่ในฐานทะเบียนบุคลากรภาครัฐหรือไม่
  3. ผู้ป่วยในที่ลงทะเบียนจ่ายตรงกับสถานพยาบาลที่รับเป็นผู้ป่วยในแล้ว ให้เบิกจ่ายตรงได้เลย
  4. ผู้ป่วยในที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนจ่ายตรงกับสถานพยาบาล
    • 12.1. ถ้าอยู่ในฐานทะเบียนบุคลากรฯ ให้ลงทะเบียนกับสถานพยาบาลด้วยกรณี“ฉุกเฉิน” แล้วนำเลขอนุมัติที่ได้มาใช้ในขั้นตอนการเบิก โดยระบุในฟิลด์ MemberNo (ตามภาพที่2)
    • 12.2. ถ้าไม่อยู่ในฐานทะเบียนบุคลากรฯ ให้บันทึกสถานะนี้ไว้ในเอกสารผู้ป่วยในเพื่อให้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสถานพยาบาลรับรู้ เมื่อมีการจ่ายยากลับบ้าน ให้เก็บค่ายาส่วนนี้จากผู้ใช้สิทธิ และให้ผู้ใช้สิทธิขอเบิกจากต้นสังกัดของตนต่อไป (ตามภาพที่ 3)
ภาพที่ 2 ระบุเลขอนุมัติฉุกเฉินในฟิลด์ MemberNo ในข้อ 12.1
ภาพที่ 3 ผู้ใช้สิทธิ์ไม่อยู่ในฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐ ในข้อ 12.2

การเบิกค่ายากลับบ้านกรณีที่ได้ส่งเบิกผู้ป่วยในไปก่อนหน้าแล้ว

สำหรับผู้ป่วยในที่มียากลับบ้านตามเงื่อนไขในประกาศข้างต้น ที่ไม่ได้ส่งเบิกตามแนวปฏิบัตินี้แต่ได้ส่งเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในด้วยระบบ DRG ไปก่อนหน้าแล้ว สกส. กำหนดวิธีการเบิกค่ายาส่วนนี้แยกต่างหากจากการเบิกข้างต้น ขอให้สถานพยาบาลที่ประสงค์จะเบิกส่งเบิกค่ายากรณีย้อนหลังนี้ภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ซึ่งจะจ่ายในบัญชีผู้ป่วยนอกงวดสิ้นเดือนสิงหาคม 2559 (เลขงวด statement 160802) เท่านั้น เพื่อให้การเบิกส่วนนี้เป็นไปอย่างถูกต้องและรัดกุม ขอให้ทางสถานพยาบาลติดต่อเจ้าหน้าที่ของ สกส ที่จะให้รายละเอียดและแนะนำการส่งเบิกเพิ่มเติมได้ โดยติดต่อโทร. 02-298-0413 ต่อ 106 หรือ e-mail: csmbs-edit@cs.chi.or.th หัวเรื่อง: “ขอส่งเบิกยากลับบ้านย้อนหลัง”

Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

คุณเป็นผู้ประกันตนมาตราไหน

0 0
Read Time:1 Minute, 4 Second

เพราะประกันสังคมไม่ได้ครอบคลุมแค่กลุ่มมนุษย์เงินเดือนเท่านั้น แต่แบ่งออกเป็น 3 มาตราหลักที่มอบสวัสดิการให้คนทำงานแต่ละกลุ่มแตกต่างกันดังนี้

  • ผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ ลูกจ้างผู้ซึ่งทำงานให้กับนายจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง 7 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ ว่างงาน
  • ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือ ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ โดยเป็นบุคคลที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบก่อนออกจากงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนแล้วลาออกจากงานไม่เกิน 6 เดือน แต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคม โดยได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ
  • ผู้ประกันตนมาตรา 40 คือ บุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพ หรือแรงงานอิสระ ไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือผู้ประกันตนมาตรา 39 โดยได้รับความคุ้มครองมากที่สุด 5 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร ตามเงื่อนไขการเกิดสิทธิ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

รวมแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น

0 0
Read Time:3 Minute, 24 Second

แบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามมาตรา 41.

ผู้รับบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการ ทายาท หรือผู้อุปการะ หรือหน่วยบริการที่ให้บริการ มีสิทธิยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 สามารถยื่นคำร้องภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ทราบความเสียหาย

แบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตาม ม.18(4)

การช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการในระบบหลักประกันสขภาพถ้วนหน้าตามมาตรา ม.18(4)

  • ความเสียหายที่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาช่วยเหลือเบื้องต้น ต้องเป็นความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข หรือจากการช่วยเหลือสนับสนุนการให้บริการสาธารณสุข
  • การพิจารณาความเสียหายและอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือ ตามกำหนดในข้อ 29 ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
    1. กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
    2. กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการ จ่ายตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 240,000 บาท
    3. กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายได้ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ระยะเวลาการยื่นคำร้อง ยื่นภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย

แบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19(Coronavirus Disease 2019(COVID-19))

คำแนะนำ

  1. ผู้มีสิทธิยื่นคำร้อง ได้แก่ ผู้รับบริการ หรือ ทายาท ผู้อุปการะ(กรณีไม่มีทายาท)ที่ให้การช่วยเหลือเกื้อกูลหรือดูแลผู้รับบริการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานพอสมควร หรือหน่วยบริการที่ให้บริการ
  2. สถานที่ยื่นคำร้อง ได้แก่ รพ.สต. โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพสาขาเขตพื้นที่
  3. ระยะเวลาในการยื่นคำร้อง ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ทราบความเสียหาย
  4. หน่วยงานที่แจ้งผลการพิจารณา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขตพื้นที่ ที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19

แนวทางการดำเนินการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แก่ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2562)

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับปรุงแนวทางการดำเนินการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แก่ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยปรับลดขั้นตอนให้มีความกระชับมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น มีความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ตามเจตนารมณ์ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข พ.ศ. 2561 และจัดทำเป็น แนวทางการดำเนินการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แก่ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2562)

ทั้งนี้ ได้แจ้งเวียนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและแจ้งผู้เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไปตามหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ สธ 0208.07/ว 2462 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 รวมทั้งได้เผยแพร่เอกสารไว้บนเว็บไซต์กองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (https://hr.moph.go.th)

Happy
6 100 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %
Exit mobile version