เปรียบเทียบหลักเกณฑ์และแนวทางบริหารจัดการกองทุนปีงบประมาณ 2563 และปีงบประมาณ 2564 เฉพาะประเด็นที่เปลี่ยนแปลง

0 0
Read Time:3 Minute, 36 Second

หลักเกณฑ์และแนวทางบริหารจัดการกองทุนปีงบประมาณ 2564 มีการเปลี่ยนแปลง ในประเด็นที่สำคัญโดยสรุป ดังนี้

รายการบริการรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของแต่ละรายการ
1. บริการผู้ป่วยนอก1.1 รวมค่าวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในงบเหมาจ่ายรายหัว (ย้ายจากรายการบริการกรณีเฉพาะ)
1.2 เพิ่มให้ สปสช.เขต 13 กทม.อาจจ่ายตามหลักการ Value Based Health Care(BHC โดยสามารถบูรณาการจ่ายกับงบรายการอื่นๆ ได้
2. บริการผู้ป่วยในทั่วไป2.1 เพิ่มให้เขต กทม.สามารถกำหนดเงื่อนข และอัตราจ่ายหรือราคาจ่ายตามรายบริการ สำหรับบริการที่เคยเป็นบริการแบบผู้ป่วยในแล้วปรับเป็นบริการผู้ป่วยนอก (Non OP Non IP: NONI) หรือผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินปกติที่ค่ารักษาพยาบาลกับเงินชดเชยตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมแตกต่างกันมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หรืออาจจ่ายตามหลักการ VBHC โดยบูรณาการจ่ายกับงบอื่นๆ ได้
2.2 เพิ่มให้ สปสช.สามารถปรับอัตราจ่ายค่าบริการผู้ป่วยในแบบในเขต กรณีบริการ ODS MIS ในระหว่างปีได้ตามผลงานบริการ
2.3 เพิ่มรายการโรคที่จ่ายแบบ ODS MIS (รวม Home Chemo) ภายใต้งบที่ได้รับโดยให้ผ่านความเห็นชอบจากอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตบริการฯ
3. บริการกรณีเฉพาะ (CR)3.1 รวมบริการสาธารณสุขนอกเวลาราชการกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง กรณีที่มีเหตุสมควร และกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของประชาชนและปรับให้ สปสช. กำหนดรายชื่อหน่วยบริการและอัตราตามที่ สปสช.กำหนด
3.2 กรณีบริการยาสำหรับผู้ป่วยโรคเลือดออกง่าย รวมโรควอนวิลลิแบรนด์ชนิดรุนแรงมาก
3.3 กรณี Rare disease อาจเพิ่มกลุ่มโรคได้ตามสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
4. บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค4.1 เพิ่มวัคซีน MMR สำหรับเด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน
4.2 เพิ่มมาตรการไม่สมทบเงินสำหรับกองทุนท้องถิ่นเขต กทม.ที่มีเงินคงเหลือตามเกณฑ์ที่กำหนด และปรับปรุงประกาศกองทุนฯ กทม.รองรับ
4.3 เพิ่มบริการคัดกรองภาวะ Dawn syndrome ไปยังหญิงตั้งครรภ์ทุกกลุ่มอายุ
4.4 รวมบริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้แบบ Fit test ในงบนี้ซึ่งทำให้ครอบคลุมประชากรไทยทุกสิทธิ (ย้ายมาจากบริการ OP)
4.5 เพิ่มให้ สปสช.เขต 13 กทม.อาจจ่ายตามหลักการ Value Based Heatth Care (VBHC) โดยสามารถบูรณาการจ่ายกับงบรายการอื่นๆ ได้
5. ฟื้นฟูฯ5.1 ปรับการจ่ายสำหรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ระยะกลาง(Intermedieat Care: IMC ในผู้ป่วย 3 กลุ่ม โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)กรณีสมองบาดเจ็บ (Traumatic brain injuy) และ การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง(Spinal cord injury)
6. แผนไทย6.1 เพิ่มบริการฝังเข็มหรือบริการฝังเข็มร่วมกับกระตุ้นไฟฟ้าในผู้ป่วยกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองรายใหม่
7. เงินช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับผู้ให้บริการ7.1 เพิ่มอัตราชดเชยกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการ COVID เป็น 2 เท่าตามมติคณะรัฐมนตรี
8. จ่ายตามเกณฑ์คุณภาพ ผลงานบริการ8.1 เพิ่มให้ สปสช.เขต 13 กทม.อาจจ่ายตามหลักการ Value Based Health Care (BHC โดยสามารถบูรณาการจ่ายกับงบรายการอื่นๆ ได้
8.2 กรณีเขตอื่นๆ ที่ต้องการนำร่องศึกษาการจ่ายตามหลักการ VBHC ดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์เงื่อนไขการจ่ายงบ QOF เดิม
9. บริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง9.1 ดำเนินการบริการ APD และพัฒนาระบบการบริหารจัดการรองรับหากไม่มีปัญหาค่าใช้จ่ายเรื่องเครื่องอัตโนมัติที่จะทำให้ราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น
10. บริการควบคุมป้องกันและรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง10.1 เพิ่มให้ สปสช.เขต 13 กทม.อาจจ่ายตามหลักการ Value Based Health Care (VBHC) โดยสามารถบูรณาการจ่ายกับงบรายการอื่นๆ ได้
11. ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน11.1 ปรับเป็นเหมาจ่ายราย Case ผ่านกองทุนท้องถิ่น ตามเงื่อนไขที่กำหนด
12. บริการระดับปฐมภูมิ PHC12.1 สอดคล้องกับ รธน.และ พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ น้นการจัดบริการนอกหน่วยบริการและในชุมชนเพื่อสนับสนุนนโยบาย Social distancing และลดความแออัดในหน่วยบริการ โดยหน่วยบริการ และแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวร่วมกับคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ
12.2 PHC ทั่วไป ขยายให้ เขต กทม.อาจจ่ายตามหลักการ VBHC โดยบูรณาการจ่ายกับงบรายการอื่นๆ ได้
12.3 รวมบริการรองรับนโยบาย Social distancing ได้แก่
– บริการร้านยาสุขภาพชุมชน Model 1-3 โดยร้านยา Model 1-2 ปรับการจ่ายให้หน่วยบริการและร้านยาตามจำนวนครั้งบริการ ส่วน Model 3 จ่ายเพิ่มเติมเป็นค่ายาให้ร้านยา
– บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังผู้ป่วยที่บ้าน
– บริการ Telehealth, Telemedicine
– บริการโดยหน่วยร่วมให้บริการด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรือด้านกายภาพบำบัด
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

กรอบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี2564

0 0
Read Time:5 Minute, 1 Second

อ้างอิงจาก คู่มือบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2564

1. บริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัวค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข รายการบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว เป็นงบประมาณสำหรับการบริการตามประเภทและขอบเขตบริการ (สิทธิประโยชน์) ด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก/ผู้ป่วยในการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรครายบุคคลและครอบครัว การบริการกรณีเฉพาะ การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ บริการการแพทย์แผนไทย ค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน (ค่าบริการทางการแพทย์สำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนเป็นค่าเสื่อมราคาของหน่วยบริการ) เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตั้งแต่เริ่มการดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับคนไทยทั้งประเทศโดยในปีงบประมาณ 2564 ได้รับการจัดสรรเงินบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว ในอัตราเหมาจ่าย 3,719.23 บาทต่อผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ผู้มีสิทธิ) สำหรับผู้มีสิทธิ จำนวน 47.6440 ล้านคน โดยค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว ปีงบประมาณ 2564 แบ่งเป็น 9 ประเภทบริการ ดังนี้

ประเภทบริการ จำนวนบาท/ผู้มีสิทธิ
1.บริการผู้ป่วยนอกทั่วไป 1,279.31
2.บริการผู้ป่วยในทั่วไป 1,440.03
3.บริการกรณีเฉพาะ373.67
4.บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 455.39
5.บริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ 18.40
6.บริการการแพทย์แผนไทย 17.90
7.ค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน (ค่าบริการทางการแพทย์
สำหรับผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนเป็นค่าเสื่อมราคา
ของหน่วยบริการ)
128.69
8.เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการและผู้ให้บริการ 3.84
9.บริการจ่ายตามเกณฑ์คุณภาพผลงานบริการ 2.00
รวม (บาทต่อผู้มีสิทธิ)3,719.23

หมายเหตุ: ประเภทบริการที่ 4 จำนวนเงินจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนคนไทยทุกคน

2. บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขรายการบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ เป็นงบประมาณที่เพิ่มเติมจากเงินบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และประชาชนกลุ่มเฉพาะตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนด โดยครอบคลุมบริการการรักษาด้วยยาต้านไวรัส และบริการที่เกี่ยวข้อง บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ในปีงบประมาณ 2564 จัดสรรเป็นประเภทบริการต่างๆ ดังนี้

ทั้งนี้ ให้ สปสช.สามารถเกลี่ยเงินระหว่างประเภทบริการได้ตามศักยภาพของระบบบริการ

3. บริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขรายการบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เป็นงบประมาณเพิ่มเติมจากเงินบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายค่ายาและบริการที่เกี่ยวข้องในการล้างไตผ่านทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมการปลูกถ่ายไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง และเริ่มบริการล้างไตผ่านทางช่องท้องด้วยเครื่องอัตโนมัติ (Automated peritoneal dialysis: APD) หากไม่มีปัญหาค่าใช้จ่ายเรื่องเครื่องอัตโนมัติที่จะทำให้ค่าบริการเพิ่มขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2564 จัดสรรเป็นประเภทบริการต่างๆ ดังนี้

ทั้งนี้ ให้ สปสช.สามารถเกลี่ยเงินระหว่างประเภทบริการได้ตามศักยภาพของระบบบริการ

4. บริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขรายการบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง เป็นงบประมาณที่เพิ่มเติมจากเงินบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อการเข้าถึงบริการควบคุมป้องกันความรุนแรงของโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตามมาตรฐาน โดยปีงบประมาณ 2564 ยังคงเน้นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งจะช่วยชะลอไม่ให้เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง และ ครอบคลุมบริการผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชนที่เป็นผู้ป่วยโรคจิตเภท(Schizophrenia) โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าถึงบริการให้ได้รับการดูแลต่อเนื่องในชุมชน โดยจัดสรรเป็นประเภทบริการต่างๆ ดังนี้

5. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากเงินบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขที่จำเป็นต้องให้บริการประชาชนในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นหน่วยบริการในสังกัดสป.สธ. โดยในปีงบประมาณ 2564 ได้รับงบประมาณจำนวน 1,490.2880 ล้านบาท
6. ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน เป็นงบประมาณที่เพิ่มเติมจากเงินบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงสำหรับประชาชนไทยทุกคนและทุกกลุ่มวัย ซึ่งมีเป้าหมายให้ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงสามารถเข้าถึงด้านสาธารณสุขที่เชื่อมโยงบริการทางสังคม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างบ้าน ชุมชน หน่วยบริการ/สถานบริการ/ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ อย่างเป็นระบบ
โดยในปีงบประมาณ 2564 ได้รับงบประมาณจำนวน 838.0260 ล้านบาท
7. ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิ เป็นค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 258 ข้อ ช.(5) “ให้มีระบบการแพทย์ปฐมภูมิที่มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวดูแลประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสม” และตาม พ.ร.บ. ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562 โดยจะทำให้เกิดการเข้าถึงบริการระดับปฐมภูมิเพิ่มมากขึ้นในหน่วยบริการและในชุมชนทั้งในเขตและ
นอกเขตกรุงเทพมหานคร จากหน่วยบริการ และแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวร่วมกับคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อสนับสนุนการจัดบริการให้สอดคล้องกับนโยบายการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social distancing) และลดความแออัดในหน่วยบริการ ในปีงบประมาณ 2564 ได้รับงบประมาณจำนวน 421.6400 ล้านบาท

Happy
2 100 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

แนวคิดการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี2564

0 0
Read Time:4 Minute, 1 Second

ปีงบประมาณ 2564 การบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีแนวคิดและหลักการ ดังนี้

  1. การสร้างความเป็นธรรมต่อประชาชนและผู้ป่วยที่จะได้รับบริการสาธารณสุข
  2. การเพิ่มประสิทธิผลและคุณภาพผลงานบริการสาธารณสุข
  3. การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการร่วมดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและการบริการสาธารณสุข
  4. สนับสนุนการจัดบริการที่สอดคล้องกับนโยบายการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social distancing)และลดความแออัดในหน่วยบริการ ภายใต้สถานการณ์ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา เช่น บริการส่งยาไปที่บ้านผู้ป่วย บริการ Telemedicine บริการรับยาที่ร้านยาสุขภาพชุมชน บริการรักษามะเร็งลำไส้ด้วยยาเคมีบำบัดที่บ้านผู้ป่วย เป็นต้น
  5. การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารเงินกองทุน โดย
    • ให้มีการบริหารเป็นวงเงินแบบมีเพดานระดับเขตตามเขตความรับผิดชอบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต (Global budget ระดับเขต) ภายใต้ความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต (อปสข.) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้บุคคลสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงการพัฒนาบริการสาธารณสุขในเขตพื้นที่ที่ไม่มีหน่วยบริการเพียงพอหรือมีการกระจายหน่วยบริการอย่างไม่เหมาะสม
    • แนวทางการจ่ายค่าใช้จ่ายเงินกองทุน เป็นการจ่ายสำหรับการบริการสาธารณสุขและการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุข ทั้งนี้ การจ่ายเป็นเงินจะจ่ายแบบเหมาจ่ายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จ่ายตามปริมาณงานที่เรียกเก็บภายหลังการให้บริการ จ่ายตามโครงการที่กำหนดวัตถุประสงค์เฉพาะและมีการนำร่องจ่ายตามหลักการดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (Value-based Health Care) ซึ่งอาจบูรณาการจ่ายค่าใช้จ่ายร่วมกับรายการบริการประเภทต่างๆ ได้ โดย สปสช.กำหนด การกำกับ การตรวจสอบและประเมินผล
    • กรณีค่าใช้จ่ายสำหรับยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ (ยาและอื่นๆ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ) ให้สามารถดำเนินการจัดหาและสนับสนุนยาและอื่นๆ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษให้หน่วยบริการโดยเครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ และหรือจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายยาและอื่นๆ เช่น การตรวจทางห้องปฏิบัติการก่อนรับยา ฯลฯ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษตามการใช้บริการ
    • กำหนดให้มีเครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ ทำหน้าที่จัดหาและสนับสนุน ยาวัคซีน เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ให้แก่หน่วยบริการอื่นในเครือข่าย ตามแผนและวงเงินการจัดหายา วัคซีน เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเห็นชอบ (แผนและวงเงินการจัดหาฯ) โดยให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายจากกองทุน
    • ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมความต้องการของภาครัฐและแผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย ให้สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายเงินกองทุนสำหรับรายการนวัตกรรมและหรือสิ่งประดิษฐ์และหรือผลงานจากการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย ที่สนับสนุนหรือใช้ในการบริการสาธารณสุขที่ภาครัฐพัฒนาได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ สปสช.กำหนด
    • การจ่ายค่าใช้จ่ายเงินกองทุนตามปริมาณงานที่เรียกเก็บภายหลังการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการเพื่อรักษาวินัยการเรียกเก็บค่าบริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนด และตามข้อมูลที่ส่งมาในปีงบประมาณ 2564
    • การให้บริการสาธารณสุขที่เป็นโครงการเฉพาะหรือโครงการพิเศษอาจให้หน่วยบริการเครือข่ายหน่วยบริการ หน่วยบริการที่รับการส่งต่อผู้รับบริการ องค์กรชุมชน องค์กรเอกชนและภาคเอกชนที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการแสวงหาผลกำไร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายให้ทำกิจการในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามแนวทางที่ สปสช.กำหนด โดยให้ทำสัญญาหรือข้อตกลงหรือโครงการดำเนินงานและผลผลิตหรือผลลัพธ์ที่จะส่งมอบกับ สปสช.
    • กำหนดมาตรการกำกับและเร่งรัดการใช้เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกระดับรวมทั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ และกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพระดับจังหวัด โดยปี 2564 เพิ่มมาตรการกรณีกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ เขตกรุงเทพมหานครฯ หากมีเงินคงเหลือมากกว่าสองเท่าของรายรับของเงินกองทุนฯ ในปีที่ผ่านมา สปสช.อาจงดการจัดสรรเงินสมทบเข้ากองทุนฯ
    • ให้ สปสช.เสนอของบประมาณเพิ่มเติมตามความเหมาะสม สำหรับรายการบริการที่มีการจ่ายแบบระบบปลายเปิด เช่น รายการบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว เฉพาะประเภทบริการกรณีเฉพาะและบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP)และรายการค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ภายหลังจาก ติดตาม กำกับ และควบคุม/ปรับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และหากมีผลงานบริการมากกว่าเป้าหมายที่ได้รับงบประมาณหรือเงินงบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ 2564 ไม่เพียงพอ
    • ในระหว่างปีงบประมาณหากเงินที่กำหนดในรายการและประเภทบริการใดไม่เพียงพอเนื่องจากผลงานบริการมากกว่าเป้าหมายที่ได้รับงบประมาณหรือกรณีจำเป็นอื่นให้ สปสช. ใช้เงินกองทุนจากรายการและประเภทบริการอื่นจ่ายไปก่อน และในช่วงปลายปีงบประมาณ หากจ่ายหรือประมาณการจ่ายตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข เสร็จสิ้นตามเป้าหมายของปีงบประมาณ 2564 แล้ว ให้ สปสช.จ่ายเงินที่อาจเหลือในภาพรวมทุกรายการและประเภทบริการคืนเข้ารายการและประเภทบริการอื่นที่ยืมจ่ายในระหว่างปีงบประมาณก่อนและหากไม่เพียงพอให้ของบประมาณทดแทนในปีถัดไปหากมีเงินเหลือจึงจ่ายตามผลงานการใช้บริการหรือตามจำนวนประชากรให้หน่วยบริการ
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

การตรวจสอบข้อมูลการจ่ายชดเชยกรณีบริการแพทย์แผนไทย

0 0
Read Time:2 Minute, 37 Second

ตามหนังสืออ้างถึง สปสช.2.57/ว.0032 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ในการตรวจสอบข้อมูลการจ่ายชดเชยกรณีบริการแพทย์แผนไทย ด้วยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายเบื้องต้นในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม-ธันวาคม 2563) จำนวน 4 กิจกรรม ได้แก่ บริการนวด บริการประคบ บริการนวดและประคบ และบริการฟื้นฟูสมรรถภาพมารดาหลังคลอด พบข้อมูลที่หน่วยบริการบันทึกเบิกเข้ามาในระบบโปรแกรม OP/PP Individual มีความคลาดเคลื่อนเนื่องจากผลงานการเบิกจ่ายสูงกว่าปกติ หรือ ดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่นี่ http://gg.gg/unrbv นั้น

หมายเหตุ : อ้างอิงการให้บริการผู้มารับบริการเป็นตามกรมแพทย์แผนไทยกำหนด โดย “ผู้ทำหัตถการ 1 คน สามารถรักษาผู้เข้ารับการรักษา ในเวลา 08.00-16.00 น. ไม่เกิน 5 คน/วัน นอกเวลาราชการ 16.00 – 20.00 น. ไม่เกิน 2 คน/วัน”

ในการนี้ หากหน่วยบริการต้องการอุทธรณ์การประมวลผลฯ ขอให้หน่วยบริการแจ้งรายละเอียด ผลงานบริการการแพทย์แผนไทยที่ถูกชะลอการจ่ายและประสงค์จะขออุทธรณ์ ตามรายละเอียดสิ่งที่ส่งมาด้วย 2) และคำสั่งบรรจุ หรือคำสั่งจ้าง บุคลากรด้านแพทย์แผนไทย พร้อมด้วยใบประกอบวิชาชีพ และสำเนาคำสั่งหรือแผนที่เปิดให้บริการนอกเวลาราชการ (รับรองสำเนา) ในปีงบประมาณ 2564 ในหน่วยบริการที่จะอุทธณณ์ ส่งไปยัง สปสช. เขต 7 ขอนแก่น ที่เมล์คุณธัญญ์นิธิ วีรพัฒน์โสภณ e-mail : thunnnithi.w@nhso.go.th ภายในไม่เกินวันที่ 4 มิถุนายน 2564 เพื่อทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะได้ดำเนินการประมวลผลและจ่ายชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่หน่วยบริการต่อไป

การขออุทธรณ์ผลงานบริการแพทย์แผนไทยที่ถูกชะลอการจ่าย ปี 2564 ไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม 2563)

  1. กรณีข้อมูลมีความถูกต้อง และประเมินผ่านเกณฑ์มาตรฐานการขึ้นทะเบียนด้านศักยภาพแพทย์แผนไทย แนวทางดังนี้
    (เอกสารแนบประกอบ)
    • สำเนาคำสั่งบรรจุ /หรือ สำเนาสั่งจ้าง บุคลากรผู้ให้ทางการแพทย์แผนไทย ปีงบประมาณ 2564 (ใครรับรองก็ได้)
    • สำเนาใบประกอบวิชาชีพผู้ให้บริการแพทย์แผนไทย (ใครรับรองก็ได้)
    • สำเนาคำสั่งเปิดให้บริการ นอกเวลาราชการ (ใครรับรองก็ได้)
    • บันทึกข้อมูลที่ให้บริการ ตามวันที่ให้บริการ (ตามแบบฟอร์ม Check) จนท. ผู้จัดทำ รับรอง และ ผอ.หน่วยงานรับรองข้อมูล
  2. กรณีที่ต้องการแก้ไขข้อมูลและหรือต้องการยกเลิกเพื่อไม่รับจัดสรรงบประมาณ
    • บันทึกข้อมูลที่ให้บริการ ตามวันที่ให้บริการ (ตามแบบฟอร์ม ไม่ต้องการรับงบประมาณ) จนท. ผู้จัดทำ รับรอง และ ผอ.หน่วยงานรับรองข้อมูล ลำดับการส่งเอกสาร
      • จัดทำหนังสือนำส่ง นายแพทย์ สสจ.จังหวัด ของท่าน (สำเนาเรียน ท่าน สสอ. ด้วย)
      • ผู้รับผิดชอบงานแพทย์แผนไทย สสจ. แต่ละจังหวัด ทำหนังสือนำส่ง สปสช. เขต 7 ขอนแก่น
      • หน่วยที่ถูก Pending ให้ Scan Files to *.PDF และไฟล์ Ms Excel ฟอร์มอุทธรณ์/และหรือแก้ไขยกเลิก ส่งมาที่เมล์ thunnithi.w@nhso.go.th
    • สปสช.จะตรวจสอบเอกสาร ให้ครบถ้วน ขาดอันใดอันหนึ่งจะไม่ขออุทธรณ์ให้

ปล. Download Form ได้ที่เว็ปไซต์ สปสช.เขต 7 ขอนแก่น https://khonkaen.nhso.go.th >> เมนูบริการข้อมูล>>บริการแพทย์แผนไทย หรือทางกลุ่มไลน์ TTM เขต

ผู้ประสานงาน สปสช.เขต7 ขอนแก่น คุณธัญญ์นิธิ
Happy
0 0 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
0 0 %
Angry
0 0 %
Surprise
0 0 %

ตารางประเภทสิทธิย่อย

0 0
Read Time:4 Minute, 41 Second
รหัสสิทธิย่อยคำอธิบายกลุ่มucวันหมดอายุสิทธิหลัก
60อาสาสมัครมาเลเรีย2ตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวWEL
61บุคคลในครอบครัวของอาสาสมัครมาเลเรีย2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
62ช่างสุขภัณฑ์หมู่บ้าน2ตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวWEL
63บุคคลในครอบครัวของช่างสุขภัณฑ์หมู่บ้าน2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
64ผู้บริหารโรงเรียนและครูของโรงเรียนเอกชนที่สอนศาสนาอิสลาม2ตามวาระที่รับมอบหมายWEL
65บุคคลในครอบครัวของผู้บริหารโรงเรียนและครูของโรงเรียนเอกชนที่สอนศาสนาอิสลาม2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
66ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญราชการชายแดน2NoexpWEL
67ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน2NoexpWEL
68สมาชิกผู้บริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ซึ่งบริจาคโลหิตตั้งแต่ 18 ครั้ง ขึ้นไป2NoexpWEL
69หมออาสาหมู่บ้านตามโครงการของกระทรวงกลาโหม2NoexpWEL
70อาสาสมัครคุมประพฤ กระทรวงยุติธรรม2ตามวาระที่ได้รับมอบหมายWEL
71เด็กอายุไม่เกิน 12 ปีบริบูรณ์2ณ วันที่ ครบ 12 ปีบริบูรณ์WEL
72ผู้มีรายได้น้อย23 ปีWEL
73นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น23 ปีWEL
74ผู้พิการ2NoexpWEL
75ทหารผ่านศึกชั้น 1-3 ที่มีบัตรทหารผ่านศึก รวมถึงผู้ได้รับพระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ2NoexpWEL
76พระภิกษุ สามเณร แม่ชี นักบวช และนักพรตในพระพุทธศาสนาซึ่งมีหนังสือสุทธิรับรอง2ตามสถานะภาพที่ปรากฎWEL
77ผู้มีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์2NoexpWEL
80บุคคลในครอบครัวทหารผ่านศึกชั้น 1-3 รวมถึงผู้ได้รับพระราชทานเหรียญสมรภูมิ2NoexpWEL
81ผู้นำชุมชน (กำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและแพทย์ประจำตำบล)2ตามวาระที่ได้รับมอบหมายWEL
82อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร2ตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวWEL
83ผู้นำศาสนาอิสลาม ( อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น)2ตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวWEL
84บุคคลในครอบครัวของผู้นำศาสนาอิสลามของผู้นำศาสนาอิสลาม ( อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น)2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
85ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรป2ตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวWEL
86บุคคลในครอบครัวของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรป2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
87บุคคลในครอบครัวของผู้นำชุมชน (กำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและแพทย์ประจำตำบล)2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
88บุคคลในครอบครัวของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร2ตามวันหมดอายุของเจ้าของบัตรประจำตัวWEL
89ช่วงอายุ 12-59 ปี1ระหว่างช่วงอายุ 12 – 59 ปีUCS
90ทหารเกณฑ์2ตามวันที่ปลดประจำการWEL
91ผู้ที่พำนักในสถานที่ภายใต้การดูแลของส่วนราชการ(ราชทัณฑ์)2ตามวันที่พ้นโทษWEL
92ผู้ที่พำนักในสถานที่ภายใต้การดูแลของส่วนราชการ (สถานพินิจและสถานสงเคราะห์)2ตามช่วงเวลาที่อยู่ในความดูแลWEL
93นักเรียนทหาร2ตามวันที่จบการศึกษาWEL
94ทหารผ่านศึกชั้น 4 ที่มีบัตรทหารผ่านศึก รวมถึงผู้ได้รับพระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ2NoexpWEL
95บุคคลในครอบครัวทหารผ่านศึกชั้น 4 รวมถึงผู้ได้รับพระราชทานเหรียญสมรภูมิ2NoexpWEL
96ทหารพราน2ตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวWEL
97บุคคลในครอบครัวทหารของกรมสวัสดิการ 3 เหล่าทัพ2NoexpWEL
98บุคคลในครอบครัวทหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่ 12NoexpWEL
B1สิทธิเบิกกรุงเทพมหานคร(ข้าราชการ)  OFC
B2สิทธิเบิกกรุงเทพมหานคร(ลูกจ้างประจำ)  OFC
B3สิทธิเบิกกรุงเทพมหานคร(ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  OFC
B4สิทธิเบิกกรุงเทพมหานคร(บุคคลในครอบครัว)  OFC
B5สิทธิเบิกกรุงเทพมหานคร(บุคคลในครอบครัวผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  OFC
C1สิทธิเบิกหน่วยงานตนเองหรือรัฐวิสาหกิจ(เจ้าหน้าที่)  OFC
C2สิทธิเบิกหน่วยงานตนเองหรือรัฐวิสาหกิจ(พนักงาน)  OFC
C3สิทธิเบิกหน่วยงานตนเองหรือรัฐวิสาหกิจ(ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  OFC
C4สิทธิเบิกจากหน่วยงานตนเองหรือรัฐวิสาหกิจ(บุคคลในครอบครัว)  OFC
C5สิทธิเบิกจากหน่วยงานตนเองหรือรัฐวิสาหกิจ (บุคคลในครอบครัวผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  OFC
C6สิทธิเบิกจากหน่วยงานตนเองหรือรัฐวิสาหกิจ (กรณีได้รับสิทธิเฉพาะหน่วยงาน)  OFC
G1หน่วยงานรัฐอื่นๆ  OFC
L1สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(ข้าราชการ/พนักงาน/ลูกจ้างประจำ/ครูผู้ดูแลเด็ก/ครูผู้ช่วย)  LGO
L2สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(บุคคลในครอบครัว)  LGO
L3สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  LGO
L4สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(บุคคลในครอบครัวผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  LGO
L5สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(ข้าราชการการเมือง)  LGO
L6สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(บุคคลในครอบครัวข้าราชการการเมือง)  LGO
L9สิทธิสวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น(ยังไม่ระบุตำแหน่ง)  LGO
N1เด็ก อายุ 0-7 ปีบริบูรณ์ 1 ปีNRH
N2แรงงานต่างด้าวทั่วไป อายุเกิน 7 ปี 1 ปีNRH
N3แรงงานต่างด้าวที่รอเข้าระบบประกันสังคม 3 เดือนNRH
N4แรงงานต่างด้าวทั่วไป อายุเกิน 7 ปี(ตรวจสุขภาพที่รพ.อื่น) 1 ปีNRH
N5แรงงานต่างด้าวที่รอเข้าระบบประกันสังคม(ตรวจสุขภาพที่รพ.อื่น) 3 เดือนNRH
O1สิทธิเบิกกรมบัญชีกลาง(ข้าราชการ)  OFC
O2สิทธิเบิกกรมบัญชีกลาง(ลูกจ้างประจำ)  OFC
O3สิทธิเบิกกรมบัญชีกลาง(ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  OFC
O4สิทธิเบิกกรมบัญชีกลาง(บุคคลในครอบครัว)  OFC
O5สิทธิเบิกกรมบัญชีกลาง(บุคคลในครอบครัวผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ)  OFC
P1สิทธิครูเอกชน  PVT
P2สิทธิครูเอกชน(เบิกส่วนเกินหนึ่งแสนบาทจากกรมบัญชีกลาง)  PVT
P3สิทธิครูเอกชน(เบิกส่วนเกินหนึ่งแสนบาทจาก อปท.)  PVT
S1สิทธิเบิกกองทุนประกันสังคม(ผู้ประกันตน)  SSS
S2สิทธิเบิกประกันสังคม(เบิกส่วนต่างกรมบัญชีกลางได้เฉพาะกรณี)  SSS
S3สิทธิเบิกประกันสังคม(เบิกส่วนต่างจากอปท. ได้เฉพาะกรณี)  SSS
STสิทธิเบิกงานประกันสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข  STP
ตารางประเภทสิทธิย่อย ข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
Happy
9 75 %
Sad
0 0 %
Excited
0 0 %
Sleepy
2 17 %
Angry
0 0 %
Surprise
1 8 %
Exit mobile version